กรณีที่มีข่าวพบผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 84 ปีหนาวตายที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2554 สภาพศพไม่พบบาดแผล แต่มีผ้าห่มคลุมอยู่ โดยญาติผู้เสียชีวิตแจ้งว่า ตอนกลางคืนวันที่ 12 ธันวาคม 2554 ผู้เสียชีวิตเข้านอนตามปกติ กระทั่งช่วงสายญาติเห็นผิดสังเกตจึงไปปลุกและพบว่าเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่ามาจากโรคความดันโลหิตสูงกำเริบ อีกทั้งอากาศในตัวเมืองเชียงรายหนาวมากวัดได้ 14 องศาเซลเซียส  อาจทำให้ระบบหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน นั้น 

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายแพทย์ชำนาญ  หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงรายเปิดเผยว่า ได้รับรายงานแล้ว และได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่งานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ไปสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตร่วมกับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ 

ทั้งนี้จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่ 5 พฤศจิกายน 2553 – 29 มกราคม 2554 มีรายงานผู้เสียชีวิตจากภัยหนาวทั่วประเทศรวม 30 ราย แต่สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้ตรวจสอบการเสียชีวิตแล้วพบว่า 28 รายไม่ได้เสียชีวิตจากภัยหนาว เนื่องจากไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตภัยหนาว และไม่เข้าตามหลักเกณฑ์ผู้เสียชีวิตจากภัยหนาวตามที่กระทรวงสาธารณสุกำหนดไว้ คือ ไม่มีเครื่องนุ่งห่มกันหนาวอย่างเพียงพอในจังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ภัยหนาว โดยมีผู้ที่เสียชีวิตจากภัยหนาวที่ยืนยันเพียง 2 ราย คือ ชายอายุ 70 ปีที่จังหวัดเลย และชายอายุ 52 ปีที่จังหวัดเชียงราย ที่สำคัญพบว่า ผู้ที่เสียชีวิตเป็นชายร้อยละ 85 ในจำนวนนี้พบดื่มสุราเป็นประจำหรือดื่มก่อนเสียชีวิต 19 รายหรือร้อยละ 63 ใช้ยาชูกำลังและมีประวัติใช้สารเสพติดร้อยละ 17 นอกจากนี้ยังพบมีโรคประจำตัวเช่น   โรคหัวใจ หอบหืด ความดันโลหิตสูง ลมชัก โรคปอดเรื้อรัง ร้อยละ 58

นายแพทย์ชำนาญกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้อากาศในเชียงรายเริ่มหนาวเย็นมากขึ้น ร่างกายปรับตัวไม่ทันอาจเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่ หอบหืด หรือหลอดลมอักเสบรวมถึงปอดบวมด้วย ซึ่งอาการเบื้องต้นคอจะแห้ง เจ็บคอ เพราะฤดูหนาวอากาศแห้งฝุ่นละอองมาก โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำอยู่แล้ว    ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ  โดยสวมเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ อีกทั้งสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้เลือดมีความหนืด หัวใจทำงานหนัก  อาจช็อคตายได้ โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ เสี่ยงเจ็บป่วยหรือหนาวตายสูงสุดเนื่องจากศูนย์ควบคุมอุณหภูมิในร่างกายยังทำงานไม่เต็มที่

ขอเตือนประชาชนอย่าดื่มสุราเพื่อคลายหนาว อาจส่งกระทบทำให้ติดเชื้อไวรัส แอลกอฮอล์จะทำลายตับและเยื่อบุกระเพาะ ลำไส้อักเสบ จะทำให้เสียชีวิตและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย สำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบหืด ไม่ควรจุดไฟผิงเนื่องจากควันไฟจะทำให้หายใจลำบาก การป้องกันที่ดีที่สุดคือ ควรออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ให้มากขึ้น  และสวมเสื้อผ้าหนาๆเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย...