กระดานข่าวเชียงรายโฟกัส ดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย

 
Untitled Document
 
ห้องนี้เตรียมไว้สำหรับ เรื่องทั่วไป ประกาศงาน หางาน แนะนำธุรกิจบริการ แนะนำเว็บไซต์ หรือไม่รู้ว่ากระทู้ตนเองควรจะอยู่ห้องไหน (หากโพสผิดที่ ผู้ดูแลเว็บ จะย้ายให้ตามความเหมาะสม)
++ ข้อความที่ีท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง ++

สมาชิกเข้าสู่ระบบ Username : Password : ลืมรหัสผ่าน
 ตั้งคำถามใหม่ | ตอบคำถาม | ผู้เข้าชม 401 ครั้ง  ตอบกระทู้ 3 คำตอบ

aek
วันที่
07 กรกฏาคม 2009
เวลา
14:08:02
sitthipol2@hotmail.com
IP
222.123.210.22
   

เรื่องไขหวัด2009
อยากทราบว่าที่เชียงรายมีคนติดเชื้อจริงหรือไม่

ถ้าจริงช่วยบอกทีว่าที่ไหน

ถ้าไม่จริงทำไมปล่อยให้ชาวบ้านรือกันไป

ว่าโรงเรียนนั้นโรงเรียนนี้มันทำให้ผู้ปกครองนักเรียน

กังวลใจอย่างมาก

ใครมีข้อมูลช่วยแจ้งที

 


ความคิดเห็นที่ 1
ี้U hoo
07 กรกฏาคม 2009
17:40:55
uhoo168@hotmail.com
IP : 117.47.225.19
ที่เชียงรายมีคนติดไข้หวัด 2009 จริง ตามข่าวนี้
http://www.chiangraifocus.com/newsdetail.php?news=2739

ความจริงที่ต้องรู้ของไข้หวัดใหญ่ 2009 (H1N1)
ติดต่อง่ายกว่าไฃ้หวัดใหญ่ปกติ 3 เท่า ติดต่อทางตรง โดยการไอหรือจามละอองฝอย(droplet) ในระยะไม่เกิน 2 เมตร ติดต่อทางอ้อม ถ้ามีละอองฝอยที่มีเชื้อติดอยู่ที่ลูกบิดประตู ผ้าเช็ดหน้า เเก้วน้ำ ปุ่มกดลิฟต์ อื่นๆ เพราะฉะนั้น ล้างมือโดยถูกวิธีบ่อยๆ ใช้ alcohol hand rub บ่อยๆ อย่าพยายามเอามือเเคะเเกะเกาใบหน้าเเละในจมูก ใส่หน้ากากป้องกันโดยถูกวิธีป้องกันได้ เเต่ที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงสถานที่ชุมชนเเละเเออัด รถตู้โดยสาร รถเมล์ปรับอากาศ รร. รร.กวดวิชา ง่ายที่สุดคือปิดเมืองยอมเสียรายได้บ้าง เเต่รัฐบาลไม่เลือกทำ ระยะฟักตัว(หลังติดเชื้อถึงมีอาการเเสดง) 3 วัน ระยะเเพร่เชื้อ ก่อนมีอาการ 1 วันเเละหลังมีอาการ 7 วัน โดยสามารถติดเชื้อได้สูงสุด 3 วันเเรก (เเต่เด็กเล็กๆสามารถเเพร่เชื้อได้ถึง 14 วัน) เพราะฉะนั้นหยุด 5 วันไม่พอเเน่นอน ทางที่ดีต้องปิดเมืองเหมือน maxico อาการ เหมือนไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ range ของอาการกว้างมาก ตั้งเเต่ไม่รุนเเรงประเภทไม่มีไข้ก็ได้จนถึงรุนเเรงมากจนเสียชีวิต เเต่ที่เเน่ๆมีคนตาย เพราะฉะนั้นการดูเเลสุขภาพให้เเข็งเเรงไว้น่าจะผ่อนหนักเป็นเบาได้ค่ะ ปัจจัยเสี่ยง(เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเเทรกซ้อนหรือตาย) เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ถ้าน้อยกว่า 2 ปีจะเสี่ยงมาก ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 65 ปี คนที่มีโรคที่ต้องทานยา aspirin คนที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ ไต เบาหวาน หอยหืด ผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำเช่น AIDS คนที่ทานยากดภูมิคุ้มกันเช่น steroid อยู่ เเต่....คนที่ตายบางคนไม่มีปัจจัยเสี่ยง ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกำลังหาข้อมูลเเละข้อสรุปอยู่ เนื่องจากเป็นโรคใหม่ เเต่กว่าจะได้ข้อสรุปอาจ too late?? ภาวะเเทรกซ้อน ไซนัสอักเสบ ปอดอักเสบ(เสียชีวิตได้) หอบหืดเเบบต่อเนื่อง(Status asthmaticus) กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ สมองอักเสบ ติดเชื้อ bacteria เเทรกซ้อน อื่นๆ ปล.เชื้อสามารถมีชีวิตอยู่ในอากาศได้นานประมาณ 2 ชั่วโมง ทำความสะอาดเสื้อผ้าโดยการซักผ้าปกติได้ค่ะ พี่สาวที่เป็นแพทย์อยู่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูล พี่เค้าเล่าว่าที่โรงพยาบาลพบคนไข้ 100 รายแล้ว ปัจจุบันที่มาตรวจก็พบประมาณร้อยละ 80 ของผู้ที่น่าจะมีอาการ และยังฝากบอกอีกว่า ถ้ารัฐบาลไม่ควบคุมหรือกำจัดโรคได้มากกว่านี้ เชื้อโรคที่แพร่กันไปเรื่อยๆๆ จะมีโอกาสดื้อยา และอาจกลายพันธ์ และรุนแรงเท่ากับไขหวัดนกได้ จากคุณ : plee_n

ที่มา http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L8047382/L8047382.html

ความคิดเห็นที่ 2
ีu hoo
07 กรกฏาคม 2009
17:47:39
uhoo168@hotmail.com
IP : 117.47.225.19
ที่เชียงรายมีคนติดไข้หวัด 2009 จริง ตามข่าวนี้

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าสำหรับสถานการณ์การพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในพื้นที่ จ.เชียงราย พบว่า มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อแล้วจำนวน 3 ราย
รายแรกเป็นชายซึ่งเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ ปัจจุบันอาการหายดีแล้ว
ส่วนรายที่ 2 เป็นนักเรียนจากโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม พึ่งกลับจากการไปดูคอนเสิร์ตวง "ทงบังชิงกิ” ที่กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้
และรายที่ 3 เป็นนักเรียนชายอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 อายุ 16 ปีเท่ากันแต่เรียนอยู่ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง มีประวัติบิดาและมารดาพึ่งกลับจากการเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องดูแลเฉพาะของโรงพยาบาลแม่จัน
ส่วนผู้ที่ใกล้ชิดทั้งหมดได้รับการดูแลเพื่อตรวจโรคและควบคุมโรคจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว

ที่มา .. http://www.chiangraifocus.com/newsdetail.php?news=2739

ความคิดเห็นที่ 3
เสี่ยวเอ้อ
08 กรกฏาคม 2009
18:13:01
IP : 110.169.40.134
6 กค.2552

เรียน สื่อมวลชนทุกท่าน

การที่กระทรวงสาธารณสุขบอกว่า การป้องกันไข้หวัดให๋สายพันธ์ใหม่ 2009 นั้น สามารถทำได้ 3 อย่างคือ กินของร้อน ใช้ช้อนกลางและหมั่นล้างมือ เท่านั้น
เป็นการส่งข่าวสารที่ไม่ครบถ้วนไปสู่ประชาชน ทำให้ประชาชนไม่สามารถระมัดระวังป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพ ันธุ์ใหม่ 2009 และไม่สามารถควบคุมไม่ให้ผู้ป่วย แพร่เชื้อไปสู้ผู้อื่นได้ (ดังจะเห็นได้จากการมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากมาย ตัวเลขที่กระทรวงบอกว่ามีกี่รายนั้น อาจจะต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะโรงพยาบาลไม่ได้ตรวจคัดกรอง หรือยืนยันว่าใครเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไม่ ทุกๆคน)

ทั้งนี้ เพราะไวรัสไข้หวัดใหญ่นั้น จะทำให้เกิดอาการเหมือนไข้หวัดทั่วไป คือ มีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล (เด็กๆก็จะมีทั้งน้ำมูก น้ำลายไหล)

ใน น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ ของผู้ป่วยเป็นไข้ไหวัดใหญ่ จะมีเชื้อไวรัสชนิดนี้อยู่มาก เมื่อคนเปนหวัดไอ หรือจาม โดยไม่ใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก ก็จะทำให้มีเชื้อไวรัสแพร่กระจายออกมากับ ละอองน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ ที่ไอ จามหรืออาเจียนออกมา โดยละอองน้ามูก น้ำลายฯลฯ ต่างๆนี้ ก็จะมีเชื้อไวรัสปนออกมา ล่องลอยอยู่ในอากาศ คนที่อยู่ใกล้ชิด ที่หายใจเอาละอองน้ำมูกน้ำลาย ฯลฯ ของผู้ป่วย ก็จะได้รับเชื้อไวรัสเข้าไปในทางเดินหายใจโดยตรง ทำให้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย

ส่วนการที่ละอองน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ ที่หลั่งออกมาจากผู้ป่วยและแพร่กระจายโดยการไอหรือจาม ก็อาจจะแห้งกลายเป็นละอองเล็กๆ ล่องลอยในอากาศ ผู้ที่สูดหายใจเอาละอองแห้งนี้เข้าไป ก็อาจติดหวัดได้

ฉะนั้น การป้องกันไช้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไม่ว่าสายพันธ์ใด จึงควรป้องกันการแพร่กระจาย โดยการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยไอ จาม สั่งน้ำมูก น้ำลาย เลอเทอะไปทั่ว โดยการใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอ หรือจาม เพื่อไม่ให้ผู้ป่วย แพร่เชื้อไปยังผู้อื่นไดยปล่อยละอองน้ำมูก น้ำลาย ไปในอากาศ

ส่วนผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสแล้ว แต่ยังไม่มีอาการไข้หวัด (ระยะฟักตัว 1-3 วัน ก่อนมีอาการ) แต่เขาก็มีเชื้อโรคที่สามารถแพร่ไปสู่คนอื่นได้แล้ว ฉะนั้น ลมหายใจ น้ำมูก น้ำลาย เขาก็มีเชื้อโรคอยู่แล้ว เขาจึงอาจแพร่เชื้อได้โดยการจาม

ฉะนั้น การจะป้องกันไม่ให้ผู้ป่วย หรือผู้ได้รับเชื้อโรคแล้ว(แต่ยังไม่มีอาการ) แพร่เชื้อไปสู่อากาศ ก็ควรจะให้ผู้ป่วยทุกคนใส่ผ้าปิดปากปิดจมูก (mask) เวลาออกไปนอกบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อให้คนอื่น
ส่วน ผู้ยังไม่มีอาการ (ไม่ว่าจะได้รับเชื้อหรือไม่) ก็ควรจะมีผ้าปิดปากปิดจมูก เวลาออกไปยังที่ชุมนุมชน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันตนเอง มิให้สูดเอาเชื้อไวรัสจากอากาศ
ในโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยเยอะๆ ในปัจจุบันนี้ บุคลากรในโรงพยาบาลจึงต้องใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อ และให้ผู้ป่วยใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกเช่นกัน

หรือคนอาจจะแพร่เชื้อให้คนอื่นจากการกินอาหารร่วมกันโดยไม่ใช้ช้อนกลาง
หรือมือของผู้ป่วยเอาไปเช็ดน้ำมูก น้ำลาย แล้วไปป้ายตาม ของเล่น (เด็ก) หรือจับประตู เอาน้ำมูกไปป้ายตามที่ต่างๆ ก็สามารถแพร่เชื้อไวรัสได้ การล้างมือจึงสำคัญมาก เพราะถ้ามือเราไปจับสิ่งที่เปื้อนน้ามูกน้ำลายแล้วเอาม ขยี้จมูก หรือเอาใส่ปากอม (เด็ก) หรือหยิบของกิน ก็จะทำให้เราได้รับเชื้อไวรัสได้ จึงต้องหมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำ และสบู่

ห้องน้ำสาธารณะตามตลาดสด และร้านอาหาร มักไม่ค่อยมี สบู่ไว้เสำหรับฟอกมือ

จึงควรจะมีข้อบังคับด้านสุขอนามัยจากเทศบาล หรือกระทรวงสาธารณสุข ชี้ชวน (น่าจะออกเป็นประกาศกระทรวงบังคับ) ให้ห้องน้ำในที่สาธารณะ ตลาด และร้านอาหาร ต้องมีสบู่ไว้ให้ประชาชนล้างมือหลังเข้าห้องน้ำ ให้ติดเป็นนิสัย
เพราะการล้างมือนั้น จะสะอาดปราศจากเชื้อโรคได้ ก็ต้องฟอกด้วยสบู่ทุกครั้ง ไม่ใช่ล้างน้ำเปล่าอย่างเดียว

และการล้างมือให้สะอาดนี้ นอกจากจะป้องกันโรคไข้หวัดแล้ว ยังป้องกันโรคท้องร่วง บิด อหิวาต์ ลำไส้อักเสบ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ขอให้ช่วยแพร่ข่าวนี้ด้วย เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไข้หวัดใหญ่ระบาดไปมากกว่านี้


พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา
กุมารแพทย์

ขณะนี้เชียงรายโฟกัส ได้ย้ายไปใช้เว็บบอร์ดใหม่

ท่านสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่นี่ http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php

 


"...ข้อความที่ีท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าผู้เสียหายหรือผู้ถูกพาดพิงพบเห็นข้อความใดๆ ที่พาดพิงถึงท่านจนได้รับความเสียหาย หรือข้อความที่ี่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งมาที่ เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบทันที ขอขอบพระคุณ.."
 

เชียงรายโฟกัส ดอทคอม ชุมชนออนไลน์ของคนเชียงราย by :http://www.ChiangraiFocus.com
ทุกความคิดเห็นสามารถส่งมาได้ที่ ChiangraiFocus@hotmail.com | หน้าแรกเว็บไซต์เชียงรายโฟกัส | หางานเชียงราย | ลงโฆษณากับเชียงรายโฟกัส