กระดานข่าวเชียงรายโฟกัส ดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย

 
Untitled Document
 
เรื่องแปลก เรื่องใหม่ สอบถามข้อมูล ประกวด แข่งขัน กิจกรรม ทุกเรื่องราวต่างๆ ในเชียงราย แนะแนวสถานศึกษา ฯลฯ
++ ข้อความที่ีท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง ++

สมาชิกเข้าสู่ระบบ Username : Password : ลืมรหัสผ่าน
 ตั้งคำถามใหม่ | ตอบคำถาม | ผู้เข้าชม 576 ครั้ง  ตอบกระทู้ 1 คำตอบ

อินทร์แปลง
วันที่
07 มกราคม 2009
เวลา
11:27:02
IP
58.137.102.138
   

น้ำกก"อุจาด รุกหาดตั้งร้านอาหาร
น้ำกก"อุจาด รุกหาดตั้งร้านอาหาร

ไปไหนไปกัน



สายน้ำกกเป็นเสมือนสายน้ำประจำ จ.เชียงราย มาเนิ่นนาน ทั้งที่มีต้นน้ำมาจากฝั่งประเทศพม่า ในหน้าฝนเป็นกระแสน้ำเชี่ยวกรากสีแดงเข้ม ในหน้าแล้งไหลเอื่อยใสรินให้ได้ชุ่มฉ่ำอยู่เสมอ

แม่กกเป็นแม่น้ำสายเดียวของบ้านเรา ที่ไหลย้อนจากใต้ขึ้นเหนือ เข้ามาจากประเทศพม่าฝั่งตะวันตก ผ่าน อ.เมืองเชียงราย เวียงชัย แม่จัน ลงสู่แม่น้ำโขงที่บ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ยาวประมาณ 114.5 กิโลเมตร

ถึงหน้าแล้งนี้ ช่วงที่ไหลผ่านเทศบาลนครเชียงราย ติดต่อกับหมู่บ้านป่างิ้ว ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย น้ำกกกลายเป็นชายหาดกว้างนับ 10 ไร่ ยาวกว่า 1 กิโลเมตร กลับมีร้านค้าลงไปสร้างเพิงขายอาหารรุกลงไปกลางแม่น้ำนับร้อยหลัง บดบังหาดทรายที่สวยงามเป็นอย่างมาก ทั้งยังอันตรายเพราะเป็นเส้นทางเดินเรือท่องเที่ยว ระหว่างเชียงราย-หมู่บ้านรวมมิตร ไปยังอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ด้วย

ไม่เพียงแต่จุดนี้เท่านั้น แต่ร้านค้ายังขยายวงลามไปยังหาดทรายแห่งอื่นๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงราย โดยเฉพาะเชิงสะพานแม่น้ำฟ้า แม้ว่าหน่วยงานทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและฝ่ายปกครอง พยายามเข้าไปแก้ปัญหา จนเกิดฟ้องร้องกันมาแล้ว

นายไพศาล พุทธมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรอบเวียง กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ได้ตกลงกับร้านค้าต่างๆ ประมาณ 30 ราย ให้ลงไปตั้งร้านค้าเอง โดยขออนุญาตกรมการขนส่งทางน้ำฯ เรียบร้อยแล้ว เป็นเวลา 1 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 1-30 เม.ย. ที่ผ่านมา เมื่อถึงสิ้นเดือนเม.ย.นี้เป็นต้นไป ก็จะรื้อถอนร้านค้าให้หมด เพื่อให้หาดทรายกว้างขวางเหมือนเดิม ซึ่งในอดีตมีปัญหาคั่งค้างและหาข้อยุติมานาน การแก้ไขปัญหาจึงค่อยเป็นค่อยไปจะรีบร้อนไม่ได้ ที่ผ่านมามีการทำสัญญาเช่าที่ระหว่างร้านค้ากับอบต.รอบเวียง เพื่อตั้งร้านอาหาร ต่อมามีการรุกเข้าริมฝั่งแม่น้ำจนบดบังทัศนียภาพตลอดทั้งปี จึงมีฟ้องร้องเป็นคดีความ ปัจจุบันยุติลงหมดแล้ว จึงสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำกกขึ้นมาจนหมด แต่อนุญาตเฉพาะในเดือนเม.ย.เพียงเดือนเดียวเท่านั้น จึงถืออะลุ้มอล่วยต่อกันไป


"อบต.ก่อสร้างร้านบนฝั่ง 30 แห่ง ห่างจากริมแม่น้ำกกประมาณ 100 เมตร เพื่อเป็นจุดตั้งร้านค้าถาวร และในอนาคตจะไม่อนุญาตให้ลงไปรุกหาดทรายอีก โดยลดค่าเช่าจากเดิมเดือนละ 2,000 บาท เหลือเพียง 1,500 บาท ในกลุ่มผู้ประกอบการก็มีการจัดตั้งชมรมผู้ประกอบการร้านค้าหาดเชียงรายดูแลกันเองด้วย" นายไพศาลกล่าว

ขณะที่ นายสมเกียรติ ชื่นธีระวงศ์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเชียงราย ระบุว่า ในอดีตหาดเชียงรายเป็นหาดทรายแนวยาว ขนานไปกับแม่น้ำกก และมีภูเขาสูงชันอยู่ตรงข้ามมีทัศนียภาพที่สวยงามมาก การไปตั้งร้านอาหารเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ทำให้ไม่เหลือความเป็นหาดอีกต่อไป การแก้ไขปัญหาหาดเชียงรายและที่อื่นๆ นั้น ตามหลักการทำได้ง่ายมาก แต่เนื่องจากเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดูแลทั้ง 2 ฝั่ง ดังนั้นจึงเสนอให้มีการประชุมกัน 3 ฝ่าย คือ เทศบาล อบต. และ อบจ.เชียงราย เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อให้ร้านค้าไม่ต้องเสียประโยชน์ และทำให้หาดทรายกว้างกลับมาเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตามหากไม่รีบแก้ไขจะกลายเป็นปัญหาที่แก้ไขยากขึ้น เพราะจะมีการขายกิจการต่อกันเป็นทอดๆ ทำให้ผู้ที่เข้าไปประกอบการกิจการคนหลังๆ เสียเงินไปกับการซื้อสิทธิ จนไม่ยอมย้ายขึ้นมาบนฝั่งง่ายๆ และจะกลายเป็นปัญหาหมักหมม ส่วนกรณีที่อบต.ร่วมกับร้านค้าขออนุญาตตั้งร้านบนหาดเฉพาะเดือนเม.ย.ของทุกปีนั้น ตนเห็นว่ายิ่งไม่น่าทำ เพราะเดือนเม.ย.ถือเป็นไฮไลต์ของการท่องเที่ยวฤดูร้อนโดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ เดือนเม.ย.นักท่องเที่ยวจำนวนมากจะไปเยือนหาดเชียงรายเพื่อคลายร้อน แต่เมื่อไปแล้วไม่พบความสวยงามเหมือนเดิม จะทำให้ผิดหวังและส่งผลต่อการท่องเที่ยวในปีต่อไป

ด้าน นายประนอม เชิมชัยภูมิ รองผู้อำนวยการสมาคมสร้างสรรค์ชีวิตและสิ่งแวดล้อม แสดงความเห็นว่า การท่องเที่ยวต้องอาศัยทรัพยากร ธรรมชาติโดยเฉพาะแม่น้ำกก ดังนั้นการสร้างสิ่งปลูกสร้างริมน้ำจึงมีความเสี่ยง อาจก่อให้เกิดปัญหาขยะ ทั้งจากนักท่องเที่ยวและร้านค้าต่างๆ ซึ่งปัญหาขยะในแม่น้ำเป็นปัญหาใหญ่ เพราะแม่น้ำกกมีเขื่อนกั้นที่หมู่บ้านป่ายางมน ต.รอบเวียง อ.เมือง ทำให้เกิดการหมักหมมของขยะ ซึ่งปัจจุบันมีขยะจำนวนมากจึงเป็นห่วงว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้หากมองในแง่ของวิถีชีวิตของชาวเชียงรายและแม่น้ำกกที่อยู่คู่กันมานาน พบว่าด้วยสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ แม่น้ำกกสามารถช่วยด้านการท่องเที่ยวในฤดูร้อนได้มาก ทำให้การท่องเที่ยวมีความคึกคัก การเกิดหาดทรายและตั้งร้านค้าจำหน่ายอาหารต่างๆ จึงเป็นเสมือนโอกาสที่ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยฟื้นตัว และหาประโยชน์จากความเป็นธรรมชาติดังกล่าว ดังนั้นเพื่อรักษาความเป็นธรรมชาติเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์อย่างยาวนาน จึงควรรณรงค์ไม่ให้มีการทิ้งขยะลงไปในแม่น้ำ

"ถ้าถามนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากต่างประเทศที่ไปเยือนหาดเชียงราย คงทราบกันดีว่าต้องการเห็นภาพของแม่น้ำที่ใสสะอาด และมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำกกและหาดทรายสวยงาม การไปตั้งร้านค้าเข้าไปกลางหาดทรายหรือรุกลงไปในแม่น้ำ ทำให้แม่น้ำกกหมดเสน่ห์ไป จึงควรหารือกันอีกครั้งว่าควรจะทำอย่างไร เพื่อให้เกิดความสมดุลมากที่สุด"

นี่คือเสียงสะท้อนด้วยความห่วงใยที่มีต่อสายน้ำกก เพราะหากติดตามดูข้อมูลอีกหลายด้าน พบว่าในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา มีชุมชนจำนวนมากรุกคืบเข้าไปหาแม่น้ำสายนี้ตลอดเวลา มีผู้คนใช้ประโยชน์จากแม่น้ำสายนี้เพิ่มขึ้น ขณะที่คุณภาพน้ำกกกลับลดลง!!





"แม่น้ำกก" มีต้นกำเนิดในประเทศพม่า ไหลเข้าประเทศไทย ผ่าน อ.เมือง เวียงชัย แม่จัน เชียงแสน จ.เชียงราย ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่บ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน มีความยาวผ่าน จ.เชียงราย ประมาณ 114.5 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากท่าเรือริมแม่น้ำ บริเวณสะพานแม่ฟ้าหลวงในตัวเมือง เพื่อนั่งเรือชมทัศนียภาพของแม่น้ำกก สองฟากฝั่งเป็นป่าเขาที่สวยงามตามธรรมชาติ ระหว่างทางจะเห็นภาพวิถีชีวิตชาวบ้านเล่นน้ำจับปลาอยู่ตามริมแม่น้ำ โดยสามารถแวะชมหมู่บ้านชาวเขาต่างๆ เช่น อีก้อ ลีซอ กะเหรี่ยง หรือปางช้าง เพื่อนั่งช้างเที่ยวป่ารอบบริเวณนั้นได้ อัตราค่าเช่าเรือ 450 บาท นั่งได้ 8 คน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

 


ความคิดเห็นที่ 1
เบื่อ
06 มิถุนายน 2009
22:20:49
IP : 124.122.64.124
เศร้าใจกับหาดเชียงรายมาก ไม่รู้ผู้บริหารมีความคิดเห็นอย่างไร ทำไมชอบทำให้ธรรมชาติมันดูแย่ ดูรก ดูสกปรก ทำไมไม่รักความเป็นธรรมชาติ อยากจะได้กำรี้กำไรจากมัน มันก็มีวิธี ทำให้มันดูกลืนกับธรรมชาติก็ได้นี่ ไม่รุกล้ำ ไม่บดบัง แต่ทำมาค้าขายได้ ให้เช่าได้ ทำให้มันน่าเดิน น่ามาท่องเที่ยว ไม่ใช่เหมือนแหล่งซ่องสุมขนาดนี้ เคยเห็นมาตั้งแต่เด็ก เดี๋ยวนี้ไม่อยากจะไป นักท่องเที่ยวมาแล้วบอกว่าพามาทำไมเนี่ย ไม่เห็นจะสวยตรงไหน ทำมาได้เพิงขายของริมหาด ห้องแถวเรียงติดกัน ขายของเหมือนกัน ร้านอาหารติดกัน เป็นพรีด ไม่รู้จะมาดูหาด หรือมาดูเพิงร้านค้า สามเหลี่ยมทองคำเหมือนกัน เห็นแล้วเศร้า กลายเป็นที่จอดรถ ห้องแถว รถเข็นปลาหมึก รก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ทำไมผู้บริหารของหลวงทำแล้วต้องเละไปซะทุกจังหวัดทุกภาค ทุกที่ ก็ไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่ไปดูงานต่างประเทศกันมาก็เยอะ ช่วยดูแล้วเอามาทำให้เหมือนเค้าได้มั้ย จะได้ไม่ต้องแห่ไปเที่ยวเมืองนอกกัน บ้านเราธรรมชาติสวย ๆ เยอะแยะ แต่ชอบทำให้ธรรมชาติมันไม่เป็นธรรมชาติ คือจะพัฒนาให้เป็นแหล่งทำเงินมันได้ แต่ทำให้มันดูเข้ากับธรรมชาติหน่อย แล้วไม่ทำลายธรรมชาติบ้างได้หรือไม่

ขณะนี้เชียงรายโฟกัส ได้ย้ายไปใช้เว็บบอร์ดใหม่

ท่านสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่นี่ http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php

 


"...ข้อความที่ีท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าผู้เสียหายหรือผู้ถูกพาดพิงพบเห็นข้อความใดๆ ที่พาดพิงถึงท่านจนได้รับความเสียหาย หรือข้อความที่ี่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งมาที่ เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบทันที ขอขอบพระคุณ.."
 

เชียงรายโฟกัส ดอทคอม ชุมชนออนไลน์ของคนเชียงราย by :http://www.ChiangraiFocus.com
ทุกความคิดเห็นสามารถส่งมาได้ที่ ChiangraiFocus@hotmail.com | หน้าแรกเว็บไซต์เชียงรายโฟกัส | หางานเชียงราย | ลงโฆษณากับเชียงรายโฟกัส