 |
Yim |
วันที่ |
19 กุมภาพันธ์ 2009 |
เวลา |
21:38:01 |
|
|
IP |
117.47.231.57 |
| |
|
|
|
ส่องแผนลงทุนยักษ์ค้าปลีก 'เซ็นทรัล' แตะเบรกรอเศรษฐกิจฟื้น
|
หากเอ่ยถึงค้าปลีกอันดับ 1 ของเมืองไทย ย่อมคิดถึง "เซ็นทรัล กรุ๊ป" ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานมากว่า 60 ปี ผนวกผลงานที่สร้างความยิ่งใหญ่ในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าให้ประจักษ์ ทั่วประเทศ ทำให้กลายเป็นต้นแบบของค้าปลีกสมัยใหม่
การลงทุนของกลุ่มเซ็นทรัล ทั้งกลุ่มธุรกิจค้าปลีก และห้างสรรพสินค้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัดหรือซีอาร์ซี และศูนย์การค้า ภายใต้การดูแลของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ในแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท แต่ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่างเซ็นทรัล ต้องหันกลับมาพินิจวิเคราะห์แผนการลงทุน ว่าจะเดินหน้าหรือแตะเบรก เพื่อรอความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของทั้งนักลงทุนและผู้บริโภค
+++ เปิดแผนลงทุนเซ็นทรัล
ซีพีเอ็นมีแผนที่จะเปิดศูนย์การค้าให้ครบ 18 แห่ง ภายในปี 2553 โดยประกาศแผนการลงทุนในสาขาใหม่ไปแล้ว และที่เปิด 2 แห่งล่าสุดได้แก่ โครงการเซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ
และเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนโครงการต่อไปที่จะเปิดในเดือนกรกฎาคม คือเซ็นทรัล พลาซา ชลบุรี ใช้เงินลงทุน 1,500 - 2,000 ล้านบาท เซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น ใช้เงินลงทุน 1,500-2,000 ล้านบาท เสร็จเดือนพฤศจิกายนปีนี้เช่นกัน
แต่สำหรับโครงการเซ็นทรัล พลาซา พระราม 9 ใช้เงินลงทุน 3,000 ล้านบาท แผนเดิมจะเสร็จในปี 2553 และโครงการสวนลุมไนท์บาซาร์ มีพื้นที่ 45 ไร่ ซึ่งบริษัทรอรับมอบที่ดินจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุน 10,000 ล้านบาท สำหรับการพัฒนาเป็นคอมเพล็กซ์หรู ในปีนี้แต่จะเสร็จในปี 2553 และเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ สาขา 2 ใช้เงินลงทุน 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จในปีเดียวกัน อาจจะต้องชะลอแผนการลงทุนออกไป เพราะนอกจากเม็ดเงินที่ต้องลงทุนเกือบ 20,000 ล้านบาทใน 2 ปีแล้วนั้น ยังต้องดูสภาพเศรษฐกิจทั้งภายในและนอกประเทศด้วย เพราะการลงทุนศูนย์การค้าจำเป็นต้องไปพร้อมๆ กับซัพพลายเออร์ ซึ่งล้วนเป็นแม็กเนตสำคัญในการดึงลูกค้า
++++ รีวิวแผนลงทุนรับศก.ผวน
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ซีพีเอ็น กล่าวว่า แม้ขณะนี้เศรษฐกิจโดยภาพรวมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของบริษัท แต่บริษัทก็ระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ทำให้ล่าสุดบริษัทจะชะลอการลงทุน ในโครงการเซ็นทรัลพระราม 9 มูลค่าการลงทุน 4,000 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับพื้นที่และลงเสาเข็ม คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของโครงการ และโครงการพัฒนาศูนย์การค้าในประเทศจีนและอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา
ขณะที่แผนการลงทุนของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ซึ่งในทุกกลุ่มธุรกิจหรือบียู (Business Unit) ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์สปอร์ต เพาเวอร์บาย บีทูเอส เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ (ท็อปส์) โฮมเวิร์ค ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เซ็น ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ต่างมีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุดก็ต้องตัดสินใจชะลอแผนการขยายสาขาใหม่ออกไปเพื่อรอดูภาวะเศรษฐกิจ เช่นกัน
โดยนายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ซีอาร์ซี ยอมรับว่า บริษัทตัดสินใจชะลอแผนการลงทุนในกลุ่มธุรกิจต่างๆ รวมมูลค่าการลงทุนกว่าหมื่นล้านบาท ออกไปจนถึงไตรมาส 3 เพื่อรอให้ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวก่อนที่จะรีวิวอีกรอบ
++++ แตะเบรก 2 บิ๊กโปรเจ็กต์ภาคเหนือ
ล่าสุดนายปริญญ์ จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร - การเงิน บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ชะลอแผนการลงทุนใน 3 โครงการใหญ่ ได้แก่ โครงการที่จังหวัดเชียงราย , เชียงใหม่ และที่จีน โครงการศูนย์การค้าขนาดกลางมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 30-40 ไร่ที่จังหวัดเชียงราย จากเดิมโครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการภายในปีนี้ รวมทั้งชะลอแผนการลงทุนศูนย์การค้าที่เชียงใหม่ แห่งที่ 2 บนเนื้อที่กว่า 70 ไร่ ซึ่งเดิมมีแผนจะลงทุนในปีนี้เช่นกัน
"สาเหตุที่บริษัทต้องชะลอแผนการลงทุนทั้ง 2 โครงการที่เชียงรายและเชียงใหม่ออกไป เพราะรอดูสถานการณ์ในช่วงกลางปีก่อนว่าจะเป็นอย่างไร และจะเริ่มทบทวนแผนการลงทุนใหม่อีกครั้ง"
สำหรับการเข้าไปลงทุนที่เชียงรายนั้น เดิมมองว่าเชียงรายเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อของผู้บริโภคในพื้นที่ที่ค่อนข้างดี แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจเป็นเช่นนี้ ทำให้ต้องตัดสินใจชะลอแผนการลงทุน แต่แนวโน้มกำลังซื้อของเชียงรายก็ยังดีอยู่ การออกแบบตัวโครงการก็ใกล้เสร็จแล้ว หากตัดสินใจลงทุนก็สามารถกระทำได้ทันที ส่วนโครงการเชียงใหม่นั้นทุกอย่างยังคงคอนเซ็ปต์เดิมไว้ ทั้งแม็กเนตภายในศูนย์ แต่การออกแบบยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งต้องรอดูความคืบหน้าว่าจะพร้อมจะลงทุนหรือไม่ และรอดูเศรษฐกิจเป็นหลัก ส่วนโครงการที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในต่างประเทศนั้น ก็ต้องชะลอออกไปจากเดิมที่จะเปิดในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 นั้นออกไปเป็นปี 2010 เพื่อรอดูสภาพเศรษฐกิจเช่นกัน
แผนการลงทุนศูนย์การค้าเชียงใหม่ แห่งที่ 2 ซีพีเอ็นได้ทำการเปิดตัวเมื่อกลางปี 2551 โดยถูกกำหนดให้เป็น ไลฟ์สไตล์ช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ และเป็น "ไลฟ์สไตล์ ฮับ" ของภาคเหนือบนพื้นที่โครงการ 2.5 แสน ตร.ม. ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ท็อปส์ มาร์เก็ต เพาเวอร์บาย ออฟฟิศดีโป้ บีทูเอส ซูเปอร์สปอร์ต ฟิตเนส ศูนย์รวมกิจกรรมเพื่อความบันเทิง โรงภาพยนตร์ และร้านค้าย่อยกว่า 200 ร้านค้า ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ล้านนา พร้อมนวัตกรรมการออกแบบภายใต้แนวคิด Leadership in Energy & Environmental Design หรือ LEED ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของการพัฒนาศูนย์การค้าที่ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา ส่วนแผนการลงทุนในจังหวัดเชียงรายนั้นยังไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด
การตัดสินใจชะลอการลงทุนของกลุ่มเซ็นทรัล ส่งสัญญาณต่อภาคธุรกิจและภาคประชาชนใน 3 ประเด็นคือ ความไม่มั่นใจต่อภาคเศรษฐกิจว่าจะฟื้นตัวและกลับมาเติบโตตามเป้าหมายที่ รัฐบาลกำหนดไว้หรือไม่ รวมทั้งยังมีความไม่แน่นอนในปัจจัยภายนอกหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องของราคาน้ำมัน ซึ่งยังมีความผันผวนอยู่ และส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค เช่นเดียวกับภาวะการตกงานที่เริ่มมีตัวเลขผู้ตกงานมากขึ้น
http://www.thannews.th.com/detialnews.php?id=M2324011&issue=2401 |
| |
|
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบทันที
ขอขอบพระคุณ.."
