กระดานข่าวเชียงรายโฟกัส ดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย

 
Untitled Document
 
ห้องบอร์ด ร้องทุกข์ แจ้งเตือนภัยสังคม ของ/คนหาย ทุจริต โกง ฯลฯ..
++ ข้อความที่ีท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง ++

สมาชิกเข้าสู่ระบบ Username : Password : ลืมรหัสผ่าน
 ตั้งคำถามใหม่ | ตอบคำถาม | ผู้เข้าชม 4824 ครั้ง  ตอบกระทู้ 59 คำตอบ

เชียงรายน่าอยู่
วันที่
18 มีนาคม 2009
เวลา
09:54:53
IP
113.53.161.105
   

หยุด!โรงไฟฟ้าชีวมวล
อย่าให้โรงไฟฟ้าเกิดขึ้นที่เชียงราย จะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขึ้นที่บ้านไตรแก้ว ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย จากสภาพอากาศทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าการเผาไม่ว่าจะเป็นเศษใบไม้ หรือหญ้า ฯลฯ อีกมากมายที่ทำให้สภาวะอากาศทุกวันนี้ทำลายสุขภาพของเราชาวเชียงราย (เมืองน่าอยู่) ที่บ้านเราสร้างชื่อเสียงไว้ อนาคตอาจจะเป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่อีกต่อไป ถ้าชาวเชียงรายอยากได้อากาศที่ดี และอยู่อย่างเป็นธรรมชาติ ขอให้ชาวเชียงรายช่วยกันต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลด้วยกันนะคะ อย่าให้ชาวบ้านแค่ไม่กี่หมู่บ้านต้องดิ้นรนเพื่อคนทั้งจังหวัดเลย

 


ความคิดเห็นที่ 1
อ้น
18 มีนาคม 2009
10:33:03
IP : 222.123.71.163


http://www.chiangraifocus.com/newsdetail.php?news=2030

ความคิดเห็นที่ 2
เสี่ยวเอ้อ
18 มีนาคม 2009
11:51:16
IP : 202.176.130.208
การผลิตไฟฟ้าชีวะมวล เป็นการใช้วัสดุที่เหลือใช้ หรือไม้โตเร็ว มาย่อยให้เป็นกาก เพื่อนำผ่านระบบการเผาไหม้ เพื่อน้ำไปต้มของเหลวซึ่งเป็นน้ำ ทำให้เกิดไอเพื่อปั่นกังหันในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเหมาะกับการทำโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก คล้ายกับการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหิน แต่ผลพวงที่เกิดขึ้นตามมาคือฝุ่นที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื่อเพลิงที่ใช้
แต่สามารถป้องกันได้โดยใช้หลักการคล้ายกับถ่านหิน
แต่ความเข้าใจเกี่ยวกับไฟฟ้าชีวะมวลคนไทยบางส่วนมีความเข้าใจน้อยมาก
แทนที่จะพูดถึงคุณประโยชน์ของพลังงานไฟฟ้าชีวะมวล
แต่กลับไปอ้างถึงการปลูกพื้นโตเร็ว เช่นตระกูก้านแดง ซึ่งไปเน้นให้ชาวบ้านทั่วไปเห็นถึงค่าตอบแทนที่สูงเกินความจริงอยู่มาก
ผมคิดถึงหลักการเปลี่ยนรูปพลังงานน่ะโดยเฉพาะพลังงานขยะ หรือพลังงานจากพืชโตเร็ว โดยไม่ต้องรอการทับถมเป็นแก้สหรือน้ำมันดิบก่อนน่ะ เพราะพลังงานมีการเปลี่ยนรูปน้อยที่สุด การสูญเสียพลังงานก็น้อย ดังนั้นโรงไฟฟ้าชีวะมวลจึงใช้เชื้อเพลิง พวกเศษวัสดุหรือขยะมาเผาของเหลวอะไรก็ได้อาจไม่ใช่น้ำเพื่อให้ไอระเหยนั้นไปหมุนกังหันพลังงาน ในระบบปิดไม่มีการสูญเสียของเหลว อีกทั้งพลังงานจากการเผาชีวะมวลนั้นต้องไม่มีการสูญเสียหรือเสียน้อยที่สุด บางครั้งผมยังนึกถึงรถจักรไอน้ำเลย เพราะเป็นการเผาของเหลวและเอาไอของเหลวนั้นซึ่งเป็นพลังงานกลไปหมุนเครื่องจักรโดยไม่ต้องเปลี่ยรูปพลังงาน แต่เตาเผาไอน้ำที่ใช้กับรถไฟต้องลดขนาดและต้องประหยัดพลังงานน่ะ เหมือนเตาไร้ควัน
สรุป คือ ดี มีประโยชน์ สามารถทดแทนพลังงานจากน้ำมันได้ แต่ต้องทำเป็นระบบปิด มีการจัดการไอเสียที่ดี อย่าให้เป็นเหมือนแม่เมาะล่ะ ทุกสิ่งในโลกต้องมีการแลกเปลี่ยนกัน เมื่อเราต้องการพลังงานจากมันเราก็ต้องยอมที่จะรับผลนั้นด้วย ทำไมในโลกนี้จึงไม่มีใครต่อต้านการใช้น้ำมันอย่างจริงจัง ทั้งๆที่มันให้ผลร้ายเท่ากันกับชีวมวล เพราะว่า เราใช้มากันนานแล้วและชินแล้วไง และเพราะว่าชีวมวลมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวด้วยบางครั้งให้ข้อมูลชาวบ้านครึ่งเดียว
ผมเห็นด้วยที่เดินถือป้ายรักลูกห่วงหลาน ต่อต้านพลังงานชีวมวล แต่พวกเขาก็ควรเตือนกันเองเรื่องเผาป่า นา ไร่ ด้วยถึงจะสมบูรณ์

ความคิดเห็นที่ 3
ผู้หวังดี
18 มีนาคม 2009
12:22:36
IP : 61.7.170.2
ถ้าดีจริงเค้าคงเอากันล่ะ ทุกอย่างมีทั้งดีและไม่ดี
ที่นี่ไม่ใช่ที่เเรกที่ต่อต้าน เค้าจะสร้างที่ไหนชาวบ้านก็ไม่ให้สร้าง
จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยวไม่น่าจะให้มีโรงไฟฟ้าสร้างขึ้นมา
คุณคิดว่าโรงไฟฟ้าจะมีระบบการจัดการที่ดีจริงหรือ? ถ้าเกิดวันข้างหน้าไม่ดีอย่างที่พูด
ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ? ใคร??? ฉะนั้นไม่ควรสร้าง จบ!!!
ช่วยกันหน่อยนะ


ความคิดเห็นที่ 4
เสี่ยวเอ้อ
18 มีนาคม 2009
13:14:02
IP : 202.176.130.193

ผมคิดว่าผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง น่าจะแจ้งข้อมูล บวก ลบ ให้ชาวบ้านรู้ให้หมด เพราะชาวบ้านต้องอยู่กับมันจนตาย ระบบที่คิดว่าดีที่สุด มี ครับ แต่ คนทำระบบคือคนไทยเอง มักอลุ้มอล่วย ให้งานผ่านแบบง่ายๆ มันเลยเกิดปัญหา
เราควรแก้ตรงไหนดีครับ ไม่มีพลังงานเราก็ขาดพลังงานที่จะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทุกวันนี้เราก็พึ่ง ถ่านหินอยู่ไม่ใช่เหรอ มันจะหมดเอานะ ถ้าไม่เร่งหาตัวอื่นทดแทน
หากปัญหาของชีวะมวล มันเกิดที่คน ก็น่าจะแก้ที่คน ไม่ใช่ที่ตัวชีวะมวล

ความคิดเห็นที่ 5
เสี่ยวเอ้อ
18 มีนาคม 2009
13:40:29
IP : 202.176.130.193
ทุกวันนี้เราซื้อไฟฟ้าจากลาวเข้ามาใช้บางส่วนแล้วนะครับ เพราะบ้านเราใช้กันเยอะมาก ถึงแม้ว่าตอนนี้ลาวยังใช้พลังงานน้ำอยู่จากเขื่อนน้ำงึม น้ำเทิน แต่ กำลังจะมีโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์เกิดขึ้นแล้วครับ หากบ้านเราถ่านหินหมด เราก็เป็นผู้นำเข้าพลังงานไฟฟ้าจากลาวอย่างเต็มรูปแบบ แล้วค่าไฟก็ไม่ใช่อย่างที่เป็นอยู่ครับ วันนี้มีโอกาสดีที่มีพลังงานชีวะมวลเกิดขึ้น แต่ปัญหาคือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีจริง มีมาก มีน้อย ขนาดไหน คุ้มไหมกับที่ต้องแลก อยากให้เราหันหน้ามาคุยกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ เพราะตอนนี้ชาวบ้านมีข้อมูลในมือน้อยมาก แต่ก็ต้องตัดสินใจต้านเพราะกลัว พุทธเจ้าบอกว่า ความกลัวทำให้เสื่อม ผมว่าหากเขารู้ว่าคุ้มที่ต้องแลกเขาก็ไม่กลัวครับ แต่ตอนนี้คือกลัวไว้ก่อน เพราะไม่มีข้อมูลพอ
จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ แจ้งข้อมูลแบบละเอียดถึงผลได้เสียด้วย.

ความคิดเห็นที่ 6
เสี่ยวเอ้อ
18 มีนาคม 2009
14:00:13
IP : 202.176.130.193
ข้อมูลที่ชาวบ้านอยากทราบมากที่สุดคือปริมาณการปล่อยสารพิษในอากาศ
ทำมาเลยครับ ตอนที่ไม่มีโรงไฟฟ้า ปริมาณควันพิษในอากาศมีกี่ไมครอน แล้วตอนไหน พีคสุด หน้าแล้งที่ชาวบ้านเผาป่าเผาไร่กันมันขึ้นไปขนาดไหน และถ้าเราควบคุมการเผาป่าได้(ซึ่งมันแก้ที่คนได้) ปริมาณควันพิษมันจะเหลือกี่ไมครอน และหากมีโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นมันจะสร้างควันพิษกี่ไมครอน หากเราควบคุมการเผาป่าได้ถึงแม้ไม่100% พร้อมๆกับมีโรงไฟฟ้าด้วย จะมีปริมาณควันพิษกี่ไมครอน มากพอที่จะทำลายสิ่งแวดล้อมได้ไหม หรือมันสูง-ต่ำ กว่าตอนที่เผาป่ากันโครมๆขนาดไหน ข้อมูลตรงนี้หากทำกันแบบโปร่งใส เราก็จะอธิบายให้ชาวบ้านได้
ถ้าหากชาวบ้านยังยืนยันที่จะเผาป่า เผาขยะได้ตามอำเภอใจต่อไปละก็ ป่วยการที่จะไปเก็บข้อมูลมาครับ เพราะเราต้องแก้ตัวนี้ให้ได้ก่อน
ปล. ผมยังเชื่อเรื่องการออกกฏหมายอย่างเข้มงวดเอาผิด คนเผาป่า เผาขยะ ครับเพราะตอนนี้ต่อให้ไม่มีโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นที่เชียงราย อากาศที่นี่ก็วิกฤติอยู่ดี
ปล.ที่2 ผมยังไม่ลืมทฤษฎีการลดจำนวนประชากรนะ นั่นคือการแก้ที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง

ความคิดเห็นที่ 7
รักษ์ธรรมชาติ
18 มีนาคม 2009
14:17:34
IP : 113.53.161.105
โรงไฟฟ้าชีวมวลมันก็มีทั้งผลดี และผลเสีย แต่ผลเสียมันบ่อนทำลายคนที่อยู่อาศัยใกล้ที่สร้างเกินไป คุณคิดว่าปัญหามันอยู่ที่คน แน่นอนอยู่แล้วเพราะคนเป็นคนสร้างและเป็นคนควบคุม แล้วถ้าบริษัทเอกชนแห่งนั้นสร้างขึ้นเรื่องอะไรที่เค้าจะจัดการระบบให้เป็นไปอย่างรักษาสภาพอากาศ บ้านเค้าไปไม่ได้ตั้งอยู่ที่ตำบลเวียงเหนือนิ แล้วคนที่เกิดมาตั้งรกรากอยู่ที่นั้นไม่พอใจที่จะให้สร้างทำไมยังดื้อดึง ที่จะสร้างเพียงอ้างว่าลงทุนไปมากแล้ว แล้วชีวิตคนที่อยู่ที่นี้ไม่มีการลงทุนเลยเหรอ แค่การเผาป่ายังมีควันมากขนาดนี้แล้วเพิ่มโรงไฟฟ้าไปอีก ไม่ยิ่งแย่เหรอ ถ้าอยากได้พลังงานทดแทนก็ไปสร้างในพื้นที่บ้านคุณโน้นสิ

ความคิดเห็นที่ 8
รักษ์ธรรมชาติ
18 มีนาคม 2009
14:21:23
IP : 113.53.161.105
คนที่มาร่วมชุมนุมประท้วงไม่ได้รับอะไรจากใคร แต่รู้ว่าถ้าหากสร้างไปหลายอันหลายอย่างก็ต้องมาตกอยู่ในพื้นที่ใกล้บ้านนี้ แม้คนที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงยังมาเพื่อช่วยกันต่อต้าน อดตาหลับคับตานอนเพื่อการรอคอยให้คนที่ทำงานนี้ออกจากพื้นที่โดยสันติที่สุด ถ้าคุณคิดอย่างคนที่ต้องอาศัยพื้นแผ่นดินบริเวณจังหวัดเชียงรายคุณก็ไม่ควรคิดที่จะสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อทำลายกันเลย

ความคิดเห็นที่ 9
max
18 มีนาคม 2009
16:43:04
sawnoi@aintmy+++.com
IP : 222.123.65.186
เจอมวลชน ยากครับ งานนี้

ความคิดเห็นที่ 10
เสี่ยวเอ้อ
18 มีนาคม 2009
17:11:21
IP : 202.176.146.212
ครับจากปัญหาที่คุณว่ามา ถอดข้อความมาแล้วได้สองข้อคือ
1.สร้างใกล้ชุมชนเกินไป
2.กลัวบริษัทเอกชนจะสร้างระบบไม่ดีและใส่ใจดูแลไม่มากพอ
ก็ขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจนำ2ข้อนี้ไปพิจารณาด้วย หากแก้2ข้อนี้ไม่ได้ก็เลิกสร้าง
หากแก้ได้ แก้ยังไง ทั้งระยะสั้น-กลาง-ยาว
เชื่อว่าหากทุกๆคนเอาข้อมูลจริง ทั้งดี-เสีย มาคลี่แผ่ลงแล้ว สรุปร่วมกัน ปัญหานี้คงลุล่วง
รัฐก็ได้พลังงานมาช่วยชาติพัฒนาตามอัตราเพิ่มของ ประชากรที่มากขึ้นๆ ชาวบ้านก็นอนตาหลับไม่ต้องทนทรมาณกับควันพิษ
การที่บอกว่าทำไมไม่สร้างที่อื่น ที่ไม่ใช่ที่เชียงราย ก็คงจะหลายเหตุผล
1 คือแหล่งวัตถุดิบ เพราะมันจะแปรผันตรงกับราคาการขนส่ง
และ 2 แหล่งอาศัยนั้นเป็นชุมชนใหญ่การมีโรงไฟฟ้าใช้ในชุมชนนั้นประหยัดกว่าที่ต้องพึ่งจากแม่เมาะหรือเขื่อนภูมิพล
เพราะคนเพิ่มทุกนาทีแต่มีโรงไฟฟ้าเท่าเดิมและแม่เมาะก็เท่าเดิมเขื่อนภูมิพลก็อันเดิมขนาดเท่าเดิม สักวันคงไม่พอใช้ เมื่อก่อนมีแค่ หลอดไฟ ทีวี พัดลม ตู้เย็น แต่ตอนนี้มันมีมากกว่านั้น หลายคนแม้กระทั่งคนต่อต้านเองก็เห็นพ้องว่ามันต้องมีเพิ่ม ประเด็นคือ เพิ่มอย่างไรให้รบกวนธรรมชาติน้อยที่สุด ไม่รบกวนเลยมันเป็นไปไม่ได้ แม้แต่คุณสตาร์ทรถคุณก็ก่อมลพิษแล้ว อย่างที่ผมบอกไว้ว่าเราเอาพลังงานไฟฟ้าจากลาวมาใช้ คนลาวก็คงจะนึกเกลียดคนไทยที่เราได้พลังงานแต่ลาวได้มลพิษ และเราก็ไม่อาทรร้อนใจอะไรเพราะมันไม่ใช่ที่เชียงราย กระนั้นรึ.....

ความคิดเห็นที่ 11
คนในพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้า
20 มีนาคม 2009
10:27:29
IP : 10.0.100.29
คุณเสี่ยวเอ้อตกลงคุณอยู่ฝ่ายไหนกันแน่นิ..คุณไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านนี้คุณถึงไม่รู้เรื่องอะไรมากมายมันมีอะไรที่คุณไม่รู้อีกเยอะเลยนะรู้ไหมเรื่องมันยาวไม่อยากจะเล่า..อิอิ..เบื้องหน้าเบื้องหลัง

ความคิดเห็นที่ 12
เสี่ยวเอ้อ
20 มีนาคม 2009
11:27:39
IP : 202.176.126.44
ผมอยู่ตรงกลางครับ หากเราหาจุดสมดุลย์เรื่องนี้ได้จะเป็นประโยชน์มาก แต่ถ้าศึกษาแล้วมันเสียมากกว่าดี หมายถึงศึกษาอย่างละเอียดถ้วนถี่นะไม่มีแอบแฝงตรงไปตรงมา ก็ยอมรับว่าให้ยุติการก่อสร้างได้ครับ แต่อย่างไรก็ดีเราก็ยังต้องการพลังงานอยู่เพื่อให้พอกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น แต่สิ่งแวดล้อมก็จักต้องอนุรัษ์ไว้ หากหาจุดที่มันพอดีๆ ก็สมควรให้สร้างได้
หากคุณรู้อะไรดีๆในหมู่บ้านนี้ก็เล่ามาเถิดครับเป็นวิทยาทานบางทีผมอาจตาบอดไปจริงๆและมวลชนของคุณก็จะเพิ่มขึ้นไงครับ
เป็นไปได้ไหมถ้าขยับออกจากชุมชนไปตั้งในเขตป่าแล้วอนุรักษ์ป่านั้นให้ธรรมชาติได้บำบัดด้วยตัวมันเองโดยเราควบคุมอย่างไกล้ชิดอีกทีโดยระบบกำจัดไอเสียต้องทำให้ได้ตามมาตรฐาน

ความคิดเห็นที่ 13
เสี่ยวเอ้อ
20 มีนาคม 2009
11:41:49
IP : 202.176.126.44
หากคัดค้านกันอย่างเดียวไปจังหวัดไหนก็ไม่ได้ แล้วเราจะเอาพลังงานอะไรมาทดแทนล่ะครับ
เซลแสงอาทิตย์ก็ลงทุนสูงมาก กังหันลมก็สูงที่แน่ๆลมบ้านเรามันไม่เสถียรเลยทำได้ลำบากพลังงานจากน้ำก็ต้องสร้างเขื่อนซึ่งก็ต้องโดนต้านแน่นอน จากถ่านหินก็แพงเพราะต้องขนมาจากแม่เมาะที่จำนวนลดลงเรื่อยๆ ที่เป็นไปได้สูงคือ พลังงานชีวะมวลนี่แหละครับ
ถ้าประชากรไม่มากเหมือนอดีตก็จะดีมากๆเลยครับ เพราะอดีตทุกครัวเรือนใช้ฟืน อีกทั้งการเผาทุ่งนาก็ทำกันประจำ แต่ปัญหามันกลับไม่มีเพราะธรรมชาติคือต้นไม้มันบำบัดด้วยตัวมันเอง หากลดประชากรลงได้1/3ของปัจจุบันได้เราก็ทำลายธรรมชาติน้อยลง
ขำๆนะเรามารณรงค์ดีมั้ย 1ครอบครับลูก1คนในระยะ5ปี10ปีคงเห็นการเปลี่ยนแปลง

ความคิดเห็นที่ 14
ตุลาการ
20 มีนาคม 2009
12:24:05
IP : 222.123.133.66
เรียนเชิญทุกท่านที่เห็นดีเห็นงาม ให้ไปสร้างในหมูบ้านที่พวกท่านอยู่เถิด อย่ามาตัดสินให้คนที่เขาอยู่ในพื้นที่เลย พวกชาวบ้านเขาต้องรู้ข้อเท็จจริง ไม่งั้นเขาคงไม่มาคัดค้านกันหรอกครับ ถ้าเขาจะเอาเงินนะ เขาก็รับจากนายทุนไม่ดีกว่าเหรอ แล้วก็ปลอ่ยให้สร้างโรงไฟฟ้า แต่นี่เพราะเขาไม่ต้องการเงิน เขามาคัดค้านเพราะว่าเขาเป็นเจ้าของพื้นที่ อยู่กันมานาน ไม่มีโรงไฟฟ้าเขาก็มีความสุขพอแล้ว ไปสร้างที่อื่นเถอะครับ ไปสร้างที่บ้านของคนที่เห็นด้วย คนที่มาบอกว่าดีๆๆๆๆ ก็เรียนเชิญนะครับ ให้โรงไฟฟ้าไปสร้างที่บ้านคุณได้เลย ฟรีครับฟรี

ความคิดเห็นที่ 15
คนกลาง
20 มีนาคม 2009
13:37:06
IP : 113.53.171.77
คุณเสี่ยวเอ้อ ผู้อยู่ตรงกลาง ความคิดเห็นของคุณเป็นสิ่งที่ดีมาก ฉันคิดว่าคุณน่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าชีวมวลพอสมควร ดิฉันเลยอยากทราบรายละเอียดของโรงไฟฟ้าบ้าง เห็นว่าจะสร้างที่ไหนใครก็ประท้วงไม่ให้สร้าง และที่สำคัญมันทำให้เกิดการแตกแยกระหว่างหลาย ๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกันในแต่ละพื้นที่ด้วย ช่วยบอกได้ไหมว่าประโยชน์ข้อดีและข้อเสียเป็นอย่างไร แล้วฉันจะบอกว่าทำไมคนในพื้นที่ถึงไม่ให้สร้าง.........

ความคิดเห็นที่ 16
เสี่ยวเอ้อ
21 มีนาคม 2009
11:01:13
IP : 202.176.130.206
ผมว่าขณะนี้เราทุกคนกำลังต้องการข้อเท็จจริงกันมากกว่าครับ ไม่ใช่เรื่องของการ รับเงินแจกเงินอะไรนั่นหรอก เพราะหากอ่านความเห็นผมตลอดจะไม่มีคำว่าเงินเลย
เราในที่นี้ ได้แต่อนุมานว่า พวกชาวบ้านเขาต้องรู้เรื่องดีเขาถึงไม่ให้สร้าง ก็วิงวอนนะครับ ชาวบ้านหรือผู้ที่รู้ข้อเท็จจริงของผลการศึกษาทั้งดี-เสีย ได้กรุณานำมาเผยแพร่ด้วย
ไม่เถียงครับว่าอยู่กันมานานไม่มีโรงไฟฟ้าก็มีความสุข ผมเห็นด้วย 100 % แต่เราก็ต้องพึ่งพลังงานนะครับ จะเข้าป่าหาฟืนแบบเดิมไม่ได้แล้ว โลกมันเปลี่ยนครับ ประเด็นคือเราต้องการข้อศึกษาที่ตรงไปตรงมามากกว่าว่าข้อมูลที่ป้อนให้ชาวบ้านนั้นจริงเท็จแค่ไหน
นวัตกรรมอะไรก็ตามเมื่อสร้างมาแล้วมันย่อมมีทั้งบวกและลบ ผมไม่ได้ว่า ชีวะมวลมันจะดีเลิศประเสริฐศรีอะไรหรอกเพียงแต่ตอนนี้มัน เหมาะสม กว่า แค่นั้นเอง เมื่อเทียบกับ เขื่อน ถ่านหิน นิวเคลียร์ ลมหรือเซลแสงอาทิตย์(เพราะแพงกว่ามาก)
หากว่าพลังงานไฟฟ้าจากแม่เมาะและเขื่อนภูมิพล มันพอเพียงอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างชีวะมวล แต่ตอนนี้ปัญหาคือมันไม่พอเพียง ยิ่งหน้าร้อนแบบนี้ อัตราการใช้ไฟฟ้ายิ่งสูง และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เขื่อนมันทำงานเต็มอัตราตลอดเวลาไม่ได้ และอีกปัญหาคือ น้ำต้องแบ่งไปให้ภาคการเกษตรด้วยส่วนหนึ่งเพื่อทำนาทำไร่ ดังนั้นชีวะมวลจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสม เพราะเกิดจากหลักการที่ว่า ชุมชนนั้นผลิตไฟฟ้าขึ้นมาโดยใช้วัสดุเหลือใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในชุมชนเอง
เรื่องมลพิษคงต้องให้ผู้รู้และทำการวิจัยจริงมาให้ข้อมูลครับ ผมก็จะรออ่านเหมือนกับหลายๆคนนี่แหละ

ความคิดเห็นที่ 17
เสี่ยวเอ้อ
21 มีนาคม 2009
11:19:34
IP : 202.176.130.206
มีบทความเกี่ยวกับทางรอดพลังงานไทยที่นี่อยากให้อ่านกันดู ซึ่งที่เชียงของเองก็มี โรงไฟฟ้าชีวะมวลแล้วและขายไฟฟ้าที่เหลือให้การไฟฟ้าด้วย
ตามลิงค์นี้เลยครับ
http://www.thaibizcenter.com/hotnewsdetail.asp?newsid=745

ความคิดเห็นที่ 18
กกสัก
21 มีนาคม 2009
16:07:19
IP : 222.123.214.68
เปิดเวป เปิดเน็ตเป็นกันทุกคน ลองคลิกไปดู เซิร์ทจากกูเกิ้ล หาคำว่า โรงไฟฟ้าชีวมวล จะมีให้เลือกคลิกต่อไปอีกหลายเวป เลือกอ่านดูเองเถอะครับ
ทั้งที่ดี และไม่ดี แล้วตัดสินใจเอง ว่าส่วนไหนมากน้อยกว่ากัน
ถ้าเป็นคนอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ ก็ช่วยไปให้ข้อมูล แบบมากน้อยที่ว่าให้ชาวบ้าน
ได้รับความกระจ่างชัด ให้เขาเข้าใจ แบบได้เรียนรู้ก่อนจะได้รับแต่ด้าน ลบ ลบ และก็ลบ ให้เขาได้รับด้าน บวก บวก และ ด้านสมดุลย์บ้าง
ชีวมวล เห็นว่าเดิม เคยจะทำที่ อ.ป่าแดด แต่ไปๆ มาๆ มาโผล่ที่เวียงชัยได้ไง

ถ้าดูเฉพาะเรื่องการ ดำเนินการ การอนุมัติให้มาสร้าง ไม่ผ่านประชาคม แค่นี้
ก็สมควรแล้วที่จะโดนชาวบ้านเขามาประท้วง ก็เขาไม่รู้มาก่อน อยู่ๆ มาเฉลยกัน
ว่าจะสร้างข้างที่ข้างบ้าน ข้างชุมชนคุณนะ ใครๆก็ไม่ยอม เป็นคุณๆผู้มาเปิดอ่านก็คงไม่ยอม แม้ไม่ใช่เรื่องโรงไฟฟ้า ต่อให้เป็น โรงขยะ โรงมัน โรงชำแหละสัตว์ โรงงานอาหารกระป๋อง ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงงาน โดนมองลบไปก่อนหน้าแล้ว ยิ่งมาเจอการไร้ข้อมูล หรือปกปิดข้อมูล เพิ่มเติมจากผู้ไม่ได้ผลประโยชน์ ผู้ไม่ชอบหน้า ผู้อนุรักษ์สุดกู่ ผู้ไม่มีมุมบวกมาประเมินกับมุมลบ อย่างนี้ มีโรงไหนโผล่มาก็วุ่นวาย

ท่านผู้ว่าใหม่ ลองนำไปเป็นการบ้านหน่อยนะ จะทำอย่างไร
โครงการใหม่ๆ อย่าเพิ่งคิด เอาปัญหาเหล่านี้ไปขบคิดให้เรียบร้อยก่อน
พิสูจน์ฝีมือท่านได้ตอนนี้ล่ะ

ความคิดเห็นที่ 19
คนรักเชียงราย
22 มีนาคม 2009
20:26:06
bamboo.infront@gmail.com
IP : 118.172.74.81
Photo by :: คนรักเชียงราย

ทำไมไม่สนับสนุนพลังงานไฟฟ้า จากแสงอาทิตย์ เพราะเรามีเหลือเฟือ หรือ พลังงานไฟฟ้า จากกังหันลม ทั้งสองอย่างมีผลเสียน้อยมาก ถ้าเราต้องเอาเงินไปซื้อไฟฟ้าจากลาว ก็ลองเอามาสร้างกังหันลมที่ตอนนี้ต่างประเทศเขาหันมาสนใจกันมาก บ้านเราเป็นเมืองร้อน ลมก็มีตลอด แสงอาทิตย์ก็มีตลอดทั้งปี ลองหันมาให้ความสนใจแก้ปัญหาอย่างจริงจังผมว่าคงดีกว่าโรงไฟฟ้าชีวมวล แม้แต่ กระแสน้ำก็ทำไฟฟ้าได้ การไฟฟ้าน่าจะส่งคนไปดูงานบ้างไม่งั้นก็คงเป็นเต่าพันปีอยู่อย่างนี้

ความคิดเห็นที่ 20
เสี่ยวเอ้อ
23 มีนาคม 2009
10:52:59
IP : 202.176.126.51
นัยว่า บ้านเรา กระแสลมมันไม่สเถียรอ่ะครับพูดไงดีอ่ะ คือภาษาปะกิตว่า มันไม่ สเตเบิ้ล น่ะครับ กังหันลมเนี่ยต้องใกล้ๆชายทะเล หรือ เกาะ ประมาณนั้น แล้วแสงอาทิตย์ ท่านว่าบ้านเราแดดไม่แรงพอ อ่า อันนี้จริงๆนะ เขาสำรวจมาแล้ว คือมันไม่แรงสม่ำเสมอตลอดเหมือนแถบตะวันออกกลางน่ะ อันนี้จริงไม่จริงถามกระทรวงพลังงานดู แต่ที่แน่ๆราคาอย่างแพง แถมอุปกรณ์เสริมมีปัญหาบ่อยๆอีกคือแบตเตอรี่ที่ใช้เก็บพลังงาน(กระแสไฟ)มันมีอายุครับ
แต่ถ้าใช้แผงเล็กๆบ้านใครบ้านมัน น่าสนใจอยู่นะ แต่ขยะพิษที่เกิดจากแบตเตอรี่คงอลังการน่าดู........เฮ้อ โลกเรามีดีก็ต้องมีเสีย ทำใจครับทำใจ คิดแล้วอยากนิพพานจริงๆ แต่ก็เอาชนะกิเลสไม่ได้ซักที..........

ความคิดเห็นที่ 21
ตุลาการ
24 มีนาคม 2009
10:59:09
IP : 117.47.227.145
ไม่ต้องสร้าง ไฟฟ้าก็มีเพียงพอแล้ว เพราะถึงสร้างก็ไม่ได้ให้ชาวบ้านใช้อยู่ดี เขาจะส่งขายลาวครับพี่น้อง เอามลพิษมาให้กันเปล่าๆ คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่กต้องมารับเคราะห์ พลังงานไม่จำเป็นต้องเป็นแค่โรงไฟฟ้าชีวมวลครับ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องสร้างที่เวียชัยด้วยครับ แต่ถ้าอยากสร้างนะครับ เจ้าของโรงงานครับ ผมว่ามีคนหนึ่งที่เขาเห็นดีเห็นงาม และสนับสนุนจัง ไปสร้างไว้หน้าบ้านเขาเลยครับ เขาอยากได้มากๆ เร็วๆเลยนะครับ แต่ไม่ต้องสร้างที่เวียงชับนะครับ ชาวบ้านเขาไม่เอาครับ

ความคิดเห็นที่ 22
เฮาบ่าเอาเน้อ
24 มีนาคม 2009
15:00:55
IP : 10.0.100.100
เห็นด้วยกับคุณตุลาการ..อยากสร้างไปสร้างบ้านป่อคนไค่ได้ปุ้นคนในพื้นที่บ่าต้องการเน้อ

ความคิดเห็นที่ 23
เสี่ยวเอ้อ
24 มีนาคม 2009
19:20:59
IP : 202.176.126.49
คห. 21 ทั่นตุลาการ
โรงไฟฟ้าชีวะมวลมันไม่ใหญ่มากถึงขนาดเอาไปขายให้ลาวหรอกครับ เขาให้ชุมชนผลิตแล้วก็ใช้ภายในชุมชน ที่เหลือจากชุมชนก็ขายกลับให้การไฟฟ้าฯ แล้วที่บอกว่าไฟฟ้าเราพอเพียงอยู่แล้ว จริงครับ แต่ ในอนาคต ไม่จริงครับ ถ้าเรารอไฟดับก่อนถึงคิดสร้างโรงไฟฟ้า เกรงจะไม่ทันเอาครับ หากวันหนึ่ง รัฐบอกว่า ให้ใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ ตีห้าถึงเที่ยงวัน และ บ่ายสองถึงสองทุ่ม คงสนุกดีพิลึก
คห. ที่ 22 เฮาบ่าเอาเน้อ
ก็ไม่มีไรจะพูดครับ ที่เราใช้กันอยู่นี่ก็จากแม่เมาะนะ และที่นั่นถ้าพูดแบบทั่น เราก็คงจุดตะเกียงอยู่ และไม่มีเน็ตให้เล่นหรอก
****ที่อยากทราบคือ ผลการศึกษาข้อดี-เสีย อย่างตรงไปตรงมา**** หากเสียมากกว่าก็ไม่ต้องสร้าง ก็แค่นั้น แต่นี่เรายังไม่มีข้อมูลเลย ค้านละ แล้วถามว่าอยากใช้ไฟฟ้ามั้ย ก็อยากอ่ะ.......แล้วไงล่ะให้ทำไงล่ะ ไม่ให้สร้างแต่จะใช้ไฟฟ้า แปลกมั้ย

ความคิดเห็นที่ 24
เสี่ยวเอ้อ
24 มีนาคม 2009
19:41:17
IP : 202.176.126.49
ผมก็อปมาบางส่วนนะอ่านกันดูละกัน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีแล้วกว่า 20 แห่ง ในพื้นที่ จ.เชียงราย ก็มีแล้ว 1 แห่งอยู่ที่ อ.เวียงแก่น ซึ่งชาวบ้านสามารถไปศึกษาดูงานได้ที่ อ.เวียงแก่น หรือภายในมหาวิทยาลัยก็ได้ กระนั้นการเรียกร้องของชาวบ้านก็ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้หารือในการแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้ชี้แจงการทำประชาคมในพื้นที่ว่า ได้เข้าดำเนินการในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร ทั้งๆ ที่ตามกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ทำเนื่องจากผลิตกระแสไฟฟ้าได้ไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ โดยระบุเพียงให้แจ้งกับประชาชนทราบเท่านั้น นอกจากนั้น กองทุนพัฒนาไฟฟ้าก็ได้กำหนดให้มีการหารือกับชาวบ้าน เพื่อแจ้งว่าจะได้รับประโยชน์อย่างไรด้วย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยใช้เวลา 2 เดือน พบว่าประชาชน 11 หมู่บ้านเห็นด้วยกว่า 85%

อย่างไรก็ตาม แกนนำชาวบ้านยังไม่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบ ดังนั้น นายอำเภอเวียงชัย จึงแจ้งให้บริษัทกลับไปให้ความรู้กับประชาชนตามขั้นตอนอีกครั้ง จากนั้นจึงเลิกประชุมและชาวบ้านจึงแยกย้ายกันกลับโดยที่ไม่ได้ข้อยุติเช่น เคยว่าจะสามารถก่อสร้างได้หรือไม่

นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท พลังงานสะอาดดี 2 จำกัด ได้เชิญตัวแทนชาวบ้าน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนประมาณ 60 คน เดินทางไปศึกษาดูงานที่โรงไฟฟ้ามุ่งเจริญ กรีนเพาเวอร์ ต.บุฤาษี อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อเยี่ยมชมขั้นตอนการขจัดฝุ่นละอองที่เป็นสาเหตุของมลภาวะเป็นพิษในอากาศ ระบบการขจัดน้ำเสีย และมลภาวะทางเสียง ที่เกิดจากขั้นตอนการผลิตไฟฟ้าพลังงานชีวมวลซึ่งใช้แกลบ เปลือกของข้าวเปลือก และเปลือกไม้เป็นวัตถุดิบ

ผลการศึกษาดูงาน พบว่า ฝุ่นและควันจากการเผาไหม้จะถูกดึงไปเข้าเครื่องกำจัดฝุ่นที่เป็นระบบปิดถึง 2 ขั้นตอน ทำให้เหลือฝุ่นในอากาศไม่ถึง 1% ที่ถูกปล่อยออกสู่อากาศภายนอก หากเกิดเหตุผิดพลาดระบบดังกล่าวจะหยุดทำงานทัน และกักฝุ่นส่วนเกินไว้เพื่อกำจัดด้วยระบบสำรอง สำหรับระบบน้ำที่จะนำมาใช้นำมาจากบ่อเก็บน้ำจำนวน 4 บ่อ ความจุ 800,000 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่มีการนำจากแหล่งน้ำสาธารณะมาใช้ ซึ่งส่วนใหญ่พอใจในการดูงานครั้งนี้ แต่ก็ยังเกิดปัญหาการชุมนุมต่อต้านดังกล่าวในที่สุด

ความคิดเห็นที่ 25
ตุลาการ
25 มีนาคม 2009
12:34:37
IP : 117.47.217.190
ไม่อยากจะเอ่ย อยากสร้างจนตัวสั่นเลยเหรอครับ เชิญในบ้านคุณเลยครับ ส่วนโรงไฟฟ้าที่ว่าไม่เกิน10 เมกะวัตต์ มันก็10 เมกะวัตต์พอดี นี่มันไม่ใหญ่เหรอครับ เพิ่งรู้นะเนี่ยะ ส่วนการประชาพิจารณ์ คุณทราบได้ไงครับว่าทำอย่างโปร่งใส คุณรู้เหรอ คุณรู้ได้ไง ถ้าโปร่งใสจริงชาวบ้านไม่คัดค้านหรอกครับ ถ้า 11 หมู่บ้านยอมจริง ป่านนี้ได้สร้างไปตั้งนานละครับ ส่วนเรื่องกลัวไม่มีไฟฟ้าใช้คงไม่ต้องกังวลหรอกครับ นี่ไม่ใช่หน้าที่คุณ เป็นหน้าที่ของรัฐบาล กระทรวงพลังงานที่เขาจะหาพลังงานทดแทน ส่วนเรื่องการสร้างโรงไฟฟ้าก็ต้องตามใจเจ้าของพื้นที่นะครับ ตอนนี้ขนาดโครงการของรัฐบาลเองยังสามารถร้องเรียนได้ถ้าเกิดมีผลกระทบต่อประชาชนและประชาชนไม่ยอมรับ สามารถร้องเรียนไปได้ที่ 1111 ครับ

ความคิดเห็นที่ 26
ตุลาการ
25 มีนาคม 2009
12:42:26
IP : 117.47.217.190
ผมก็อปมาเหมือนกันลองอ่านดูนะ คนที่สนับสนุนอย่างออกนอกหน้า


ปดูโรงไฟฟ้าพลังแกลบร้อยเอ็ด ก่อนต้าน

ชาวบ้านกลุ่มหลังได้พยายามสืบเสาะหาแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใช้แกลบเป็นวัตถุดิบ มีทั้งลงขันกันไปดูสภาพความจริงที่หมู่บ้าน รายรอบโรงไฟฟ้าของบริษัท บัวสมหมายผลิตไฟฟ้า จำกัด ที่จังหวัดร้อยเอ็ด จากนั้นก็ร่วมกันศึกษาโครงการและพฤติกรรมของบริษัท
และสิ่งที่ชาวบ้านพบคือ ที่บริษัทบอกว่า เป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้น ท่าจะไม่เป็นจริงเสียแล้ว หากมันคือกลอุบายที่ตรงข้ามกับคำบอกเล่า ดังนี้

๑. บริษัทได้นำชาวบ้านไปศึกษาดูงานโรงไฟฟ้าของบริษัทที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยนำชมเฉพาะจุดที่เป็นผลบวกต่อโรงงาน แต่มิได้นำชมชุมชนรายรอบโรงไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบ

๒. บริษัทกำหนดกำลังผลิตไว้ที่ ๙.๙ เมกะวัตต์ ก็เพื่อหลีกเลี่ยงบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดให้การผลิตกระแสไฟฟ้า ที่มีกำลังผลิตตั้งแต่ ๑๐ เมกะวัตต์ขึ้นไป จะต้องทำการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและต้องทำประชาพิจารณ์ก่อน ซึ่งการหลีกเลี่ยงนี้ เป็นการหลีกเลี่ยงในสาระสำคัญของพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ อย่างชัดแจ้ง เนื่องจากเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติดังกล่าวต้องการให้ชุมชนตรวจสอบและมีส่วนร่วมในกิจการอันจะก่อให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมแก่ชุมชน

๓. บริษัทได้ดำเนินการประชุมชาวบ้านอย่างรวบรัด เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๑ เพราะวันนั้นเป็นวันราชการ ซึ่งชาวบ้านคำสร้างไชยส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างของศูนย์วิจัยพืชไร่ อุบลราชธานี ต้องทำงานในวันดังกล่าว จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุม

๔. ในการลงมติรับ-ไม่รับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าของบริษัทๆ มิได้ให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน และจำเป็นต่อการพิจารณาก่อนตัดสินใจแก่ชาวบ้าน หากบริษัทได้ให้ข้อมูลเพียงด้านเดียว คือ ข้อมูลด้านที่จะชักจูงโน้มน้าวจิตใจให้ชาวบ้านลงมติเห็นชอบเท่านั้น

กลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านโรงไฟฟ้าต้องดิ้นรนต่อสู้อย่างโดยเดี่ยวเพราะฝ่ายปกครองของชุมชน ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้าง ก็อ้าแขนรับโครงการอย่างออกหน้าพร้อมทั้งดำเนินการอันฉ้อฉลและเป็นคุณแก่การดำเนินงานของนายทุนด้วยการจัดประชุมเร่งด่วน และลงมติเห็นชอบให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าแกลบ โดยละเลยต่อการศึกษาถึงผลดี-ผลเสีย

เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังโรงเรียนเพื่อให้จัดการกับครูที่ร่วมกับชาวบ้านคัดค้านโรงไฟฟ้า เพื่อสกัดและตัดกำลังฝ่ายคัดค้านอีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ ยังไม่รวมกลุ่มผลประโยชน์ที่จะได้จากการมีโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มนายหน้าที่ดิน ซึ่งเคยส่งคนไปข่มขู่แกนนำ

การเอื้อประโยชน์ให้แก่นายทุนไม่ได้มีเท่านี้ หน่วยงานที่สำคัญและมีหน้าที่โดยตรงอย่าง สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุบลราชธานีก็ทุ่มเทสุดฤทธิ์ โดยทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ได้จัดเวที ให้ข้อมูลแก่ชาวบ้าน เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๒ โดยได้เชิญตัวแทนบริษัทบัวสมหมายฯ ไปชี้แจง

ตัวแทนกรรมการสิทธิมนุษยชนมาฟังความคิดเห็น

หรือ่านเพิ่มเติมจากลิ้งค์นี้ได้เลยhttp ://www.oknation.net/blog/print.php?id=411517

ความคิดเห็นที่ 27
ผู้หวังดี
25 มีนาคม 2009
12:58:20
IP : 61.7.169.94
เห็นด้วยกับตุลาการ....ไม่ใช่แค่ที่ร้อยเอ็ดที่ต่อต้านนะ..รู้สึกว่าทีอุบลฯก็เหมือนกัน
ละอีกอย่างคุณเสี่ยวเอ้อ...คุณจะรู้ดีกว่าชาวบ้านในพื้นที่ได้ยังไง คุณเอาข้อมูลมาโพสต์
คุณรู้จริงรึป่าวว่ามันมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร????

ความคิดเห็นที่ 28
ไม่มีคำบรรยาย
25 มีนาคม 2009
13:55:08
IP : 113.53.174.211
คุณเสี่ยวเอ้อ

โรงไฟฟ้าที่จะสร้างที่อ.เวียงชัย มีขนาดใหญ่ถึง 9 เตาเผา
คุณคิดว่าผลกระทบจะมีเยอะไหม
มันมากไปไหมกับกระแสไฟฟ้าที่ต้องการใช้ของคนในพื้นที่

ความคิดเห็นที่ 29
เฮาบ่าเอาเน้อ
25 มีนาคม 2009
15:21:11
IP : 10.0.100.34
เอางี้ไหมเราให้ไปสร้างที่บ้านคุณเสี่ยวเอ้อดีไหมล่ะคุณตุลาการถ้าดีไม่ดีเขาจะได้มาบอกเราไง

ความคิดเห็นที่ 30
เสี่ยวเอ้อ
25 มีนาคม 2009
15:52:56
IP : 202.176.126.76
การพัฒนาประเทศไม่ว่าด้านพลังงานหรือเศรษฐกิจหรืออื่นๆ เป็นหน้าที่ของประชาชนชาวไทยทุกๆคนครับ ยิ่งมีตำแหน่งเป็นข้าราชการก็ต้องเคร่งหน่อย ไม่ใช่ปล่อยให้แต่รัฐทำอย่างเดียว การที่บอกว่าไม่ใช่หน้าที่ผมที่จะกลัวว่าพลังงานจะไม่พอ เพราะเดี๋ยวรัฐก็หาพลังงานมาทดแทนเอง ก็หาแล้วไงครับ แล้วมันถูกใจท่านหรือเปล่าล่ะ ผมบอกหลายครั้งแล้วว่า หากศึกษาแล้ว เสียมากกว่าดีก็ไม่ต้องสร้าง รู้สึกว่าฝ่ายศึกษากับชาวบ้านหรือแกนนำชาวบ้านจะไม่ได้ร่วมมือกันทำการศึกษามากกว่า ต่างคนต่างเอาข้อได้เปรียบของตัวเองมาอ้าง
จริงๆไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะศึกษาร่วมกัน แต่ทำไมไม่ทำ ก็อยากถามคนที่อยู่ในพื้นที่เหมือนกัน ป่วยการครับที่จะบอกให้ไปสร้างหน้าบ้านคนนั้นคนนี้ อย่าเอาความรู้สึกมาตัดสินสิครับ เอาข้อมูลมาเลยครับ ศึกษาร่วมกันแล้วเป็นแบบนั้นแบบนี้ มันเสียมากกว่า ก็ ยุติ ก็จบไม่เห็นต้องเถียงกันเลย เออ ถ้าบอกว่ามันเสียมากกว่านะแล้วรัฐดันทุรังสร้างอันนี้ค่อยต้าน ดีไหม ผมว่าเหมือนกับกรณี แก่งเสือเต้นเลย คือ ต้านกับไม่ต้านเสียงพอๆกัน แต่น้ำก็ท่วมในหน้าฝน แล้งในหน้าแล้ง ทุกปี และซ้ำๆซาก แบบนี้แหละ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หากไม่ใช่ในหลวงทรงดำริและทรงสร้างละก็ ไม่มีวันได้เห็นแน่นอน แล้ว ลพบุรี สิงห์บุรี อยุธยา อ่างทอง กทม. ก็จะท่วมมิดหลังคาเหมือนเดิม

ความคิดเห็นที่ 31
เฮาบ่าเอาเน้อ
26 มีนาคม 2009
08:46:08
IP : 10.0.100.25
ก้อชาวบ้านเขาไปดูงานที่จังหวัดที่เขาสร้างมาแล้วอะเขาไม่เอาชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เขาสร้างเขาก้อบอกเองว่าอย่าเอานะแล้วใครที่ไหนมันจะยอมให้มาสร้างล่ะคุณ

ความคิดเห็นที่ 32
เสี่ยวเอ้อ
26 มีนาคม 2009
12:13:06
IP : 202.176.146.184
เร่งทำความเข้าใจ และ เสนองานวิจัยผลกระทบให้ชาวบ้านทราบอย่างทั่วถึง เมื่อเข้าใจตรงกันแล้วก็ทำประชาพิจารณ์ด้วย ถึงจะเป็นมติได้ เราอย่าได้เอาคำบอกเล่าซึ่งมันเป็นเรื่องของอารมณ์มาเป็นมติ เราเรียนมาแล้วอย่าได้เชื่อเพียงแค่ เขาว่ามา มันต้องพิสูจน์ได้ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น เคยเห็น อบต. เอาขยะไปทิ้งตามป่ามั้ยครับทำเป็นบ่อกว้างแล้วก็เผาไม่มีวันดับ หากยัง ลองถามเทศบาลก็ได้ อบต. ก็ได้นะ ว่าขยะที่เราทิ้งๆกันเนี่ยเอาไปเก็บไว้ไหน ถ้าเราจัดเก็บคัดแยกแล้วส่วนหนึ่งนำมาเป็นเชื้อเพลิงที่โรงงานจะดีมั้ย
ปล. ขอความเห็นที่มีงานวิจัยว่าโรงไฟฟ้าชีวมวลกับชุมชน ผลดี-ผลเสีย ด้วยครับ เพราะขณะนี้ทุกคนไม่มีข้อมูล ว่าโรงไฟฟ้า 10 เมกาวัตต์มันปล่อยปริมาณฝุ่นสู่อากาศเท่าไหร่
ตอนนี้ได้แต่เดากันเอาเอง ตามความรู้สึก ซึ่งไม่ผิดครับ ความเห็นต่างไม่มีใครผิดใครถูก เพียงแต่คนที่มีข้อมูลพร้อมกว่าก็มีน้ำหนักกว่า แค่นั้นเอง

ความคิดเห็นที่ 33
ตุลการ
26 มีนาคม 2009
12:26:18
IP : 117.47.46.157
ลองอ่านกันดูนะครับพ่อแม่พี่น้อง แล้วก็ผมก็อปมาให้อ่าน


แพร่ - นายสะอาด วงศ์แสนศรี แกนนำชาวบ้าน ต.น้ำชำ อ.สูงเม่น จ.แพร่ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วยชาวบ้านหลายหมู่บ้าน รวมตัวกันที่หน้าที่ทำการอบต.น้ำชำ เพื่อเรียกร้องให้ทางการงดการออกใบอนุญาตให้โรงผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล เพราะโรงงานจะทำให้เกิดมลภาวะขึ้นในชุมชน อีกทั้งที่ตั้งของโรงงานอยู่ติดกับชุมชนที่อยู่อาศัย และพื้นที่เกษตรกรรม

นาย สะอาด กล่าวว่า โรงงานดังกล่าวใช้วิธีการลักลอบดำเนินการ ไม่เปิดเผยให้ชาวบ้านได้รับทราบมาก่อน ชาวบ้านมาทราบเมื่อมีการซื้อขายที่ดิน 13 แปลง รวม 63 ไร่ จึงรู้ว่าเป็นที่ตั้งของโรงงานไฟฟ้าชีวมวล ความจริงแล้วโรงงานดังกล่าวตั้งขึ้นต้องอยู่ภายใต้กฎหมายควบคุมมลภาวะ ก่อนจะสร้างได้ต้องผ่านขั้นตอนของกฎหมายในการควบคุมความปลอดภัย ซึ่งอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่จะต้องมีส่วนรู้เห็นในการดำเนินงาน แต่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลให้กับประชาชนทราบแม้แต่น้อย น่าจะเป็นความร่วมมือของกลุ่มทุนที่เข้ามาทำธุรกิจและภาครัฐ
นาย สะอาดกล่าวว่า สำหรับโรงไฟฟ้าดังกล่าว เมื่อสร้างไปแล้วผลดีก็มีอยู่ ที่จะได้ใช้เศษเหลือจากการเกษตรมาผลิตไฟฟ้า แต่สิ่งที่ตามมาก็คือมลภาวะทั้งแหล่งน้ำ พื้นที่เกษตร อากาศที่ประชาชนจะต้องพบ รวมทั้งกองวัสดุที่อาจส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว สิ่งเหล่านี้ไม่มีการให้ความรู้ต่อประชาชน และถึงขั้นซื้อที่ดินแล้ว ยังไม่มีการรับฟังความคิดเห็นชาวบ้านเลย เป็นเรื่องน่าแปลก ดังนั้นชาวบ้านจะไม่ยินยอมให้ตั้งโรงไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด ข่าวสิ่งแวดล้อม ศูนย์ความเป็นเลิศแห่งชาติด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและของเสียอันตราย

ความคิดเห็นที่ 34
เสี่ยวเอ้อ
26 มีนาคม 2009
18:14:21
IP : 202.176.127.0
ถูกต้องอย่างยิ่งที่คุณสะอาดจะต้าน เพราะหากอ่านรายละเอียดดีๆหลายๆรอบ จะพบว่า ลักลอบทำโดยไม่ปรึกษาชาวบ้าน ถ้าลักลอบทำก็คือเถื่อน เมื่อเถื่อนการปฏิบัติตามกฏหมายสิ่งแวดล้อมก็ไม่มี เลยทำให้ชาวบ้านเขาข้องใจเรื่องมลภาวะ มันคนละเรื่องกับที่เชียงราย บ้านเราคือขออนุญาตสร้าง และขอให้ชาวบ้านร่วมมือกันศึกษาผลดีผลเสียร่วมกับสถาบันการศึกษาของรัฐ หากผ่านมาตรฐานก็สร้างได้หากไม่ผ่านมาตรฐานก็ยุติ
อ่านอีกรอบนะ นาย สะอาดกล่าวว่า สำหรับโรงไฟฟ้าดังกล่าว เมื่อสร้างไปแล้วผลดีก็มีอยู่ ที่จะได้ใช้เศษเหลือจากการเกษตรมาผลิตไฟฟ้า แต่สิ่งที่ตามมาก็คือมลภาวะทั้งแหล่งน้ำ พื้นที่เกษตร อากาศที่ประชาชนจะต้องพบ รวมทั้งกองวัสดุที่อาจส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว สิ่งเหล่านี้ไม่มีการให้ความรู้ต่อประชาชน และถึงขั้นซื้อที่ดินแล้ว ยังไม่มีการรับฟังความคิดเห็นชาวบ้านเลย เป็นเรื่องน่าแปลก ดังนั้นชาวบ้านจะไม่ยินยอมให้ตั้งโรงไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด

ความคิดเห็นที่ 35
ตุลาการ
27 มีนาคม 2009
12:28:53
IP : 222.123.208.72
อวดรู้จัง รู้ได้ไงว่าบ้านเราไม่ลักลอบทำ เคยไปถามชาวบ้านในพื้อนที่รึยีงว่ามีสักสิบเปอร์เซ็นต์ไหมที่รู้เรื่องการก่อสร้างโรงไฟฟ้า มารู้ทีหลังตอนเรืองแดงแล้ว การประชาพิจารณ์ก็ไม่โปร่งใส แล้วที่บอกว่ามีการศึกษาร่วมกัน คุุณเอาที่ไหนมาพูด ที่เชียงรายไม่ได้ต่างกันเลยกับที่แพร่ ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ถ้าชาวบ้านรู้แต่แรกคงโดนค้านแต่แรก คงไม่ได้มีการซื้อที่ด้วยซ้ำจะบอกให้ อย่ามาพูดมั่วๆนะครับ คุณอยู่ในเหตุการณืหรือเปล่า คุุณรู้ลึกๆจริงหรือเปล่า คุณรู้อะไรบ้าง จะบอกให้ก็ได้ว่า อุตสาหกรรมจังหวัดเขาไม่ให่ก่อสร้างนะครับ เขาไม่อนุญาต แต่โรงไฟฟ้าไม่ฟัง ยังเดินหน้าไม่รับฟังความคิดเห็น ชาวบ้านเลยต้องออกโรงต่อต้านเอง อย่างนี้เหรอครับที่คุณเสี่ยวเอ้อว่าถูกต้อง ไม่รู้จริงอย่ามาพูดครับ

ความคิดเห็นที่ 36
เสี่ยวเอ้อ
27 มีนาคม 2009
17:50:57
IP : 202.176.130.198
เจริญพร....
ขอท่าน ตุลาการ กลับไปอ่าน เรปฯที่ 24 อีกครั้งครับ ผมอ้างถึง บริษัท พลังงานสะอาดดี 2 จำกัด และ ม. นเรศวร เค้าไปทำมา ไม่ได้พูดมั่วๆ ท่านรู้ความจริงลึกขนาดไหนท่านก็จงพูดมาเถิด การมาพูดเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา มันไม่เกิดประโยชน์สักนิด หากอยากให้ผมและเพื่อนชาวเวบเข้าใจและเห็นด้วยกับคุณ ก็หาเหตุผลดีๆมาสัก 5 ข้อสิครับ
ประเด็นมันคือ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะสร้างแล้วมาบอกหรือบอกก่อนสร้าง หากชาวบ้านไม่มีข้อมูลผลกระทบหรือ บริษัทให้ข้อมูลไม่ครบ เขาย่อมต้องคัดค้านไว้ก่อน ที่ผมพูดเนี่ยไม่ได้บอกว่าสร้างเลยๆนะ คุณเข้าใจเปล่าครับ ผมบอกว่าให้ร่วมกันศึกษา ดีเสียยังไงก็มาว่ากันอีกที แต่คุณกลับมาให้ข้อมูลเพียงแค่ ชาวบ้านที่แพร่ยังไม่ให้สร้างเลย มันไม่ใช่วิทยาศาสตร์นะท่าน ตุลาการ มันคือความรู้สึก
แล้วเรื่องก่อสร้างที่บอกว่า บริษัทดันทุรังสร้าง น่ะ ทางจังหวัดระงับไว้ก่อนแล้ว จนกว่าจะมีข้อยุติ ไม่เชื่อก็ให้ตำรวจจัดการ เขาไม่เสี่ยงหรอกครับ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่ติดสินบนล้านสองล้านแล้วสร้างได้ เพราะมันเกี่ยวกับคนเรือนหมื่นเรือนแสนที่กระทบ
หากท่าน ตุลาการอยู่ในพื้นที่ เหตุผลที่ท่านไม่ให้สร้าง ผมขอดีๆสัก 5 ข้อนะแต่ต้องไม่ใช่ว่า ที่โน่นที่นี่เขายังไม่ให้สร้างนะ นั่นมันไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ เชื่อว่างานนี้ต้องมี ลับ ลวง พราง แน่ๆ ผมก็รักษ์และรักธรรมชาติไม่น้อยไปกว่าท่านหรอก แต่ถ้าจะเถียงกันมันต้องเถียงด้วยข้อมูล

ความคิดเห็นที่ 37
เสี่ยวเอ้อ
27 มีนาคม 2009
19:13:26
IP : 202.176.130.223
บางส่วนที่นำมาประกอบ ตั้งใจอ่านแบบกลางๆหน่อยนะท่าน........
สำหรับกระบวนการผลิตเชื้อเพลิงจากแกลบ เริ่มด้วยการบดแกลบให้เป็นผงละเอียด จากนั้นพ่นแกลบเข้าไปในเตาเผาไหม้ และนำความร้อนไปต้มน้ำให้เดือด เพื่อให้ได้ไอน้ำไปหมุนกังหัน (Turbine) และกังหันไปฉุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ก่อให้เกิดแรงเหนี่ยวนำได้เป็นกระแสไฟฟ้า ก่อนจะส่งเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ต่อไป โดยกระบวนการผลิตทั้งหมด โรงไฟฟ้า ชีวมวล เอ.ที.ไบโอพาวเวอร์ พิจิตร เป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกของไทย ที่ใช้เทคโนโลยีระบบเผาไหม้ลอยตัว (Suspension Fired) ถึงแม้จะต้องลงทุนสูง แต่สามารถเผาไหม้เชื้อเพลิงได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ก่อให้เกิดควันดำ จึงไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสภาพแวดล้อม รวมทั้งโครงการได้จัดระบบการป้องกันและควบคุมมลภาวะไว้อย่างเพียงพอ อาทิ จัดทำบ่อพักน้ำที่บำบัดแล้วให้ระเหยไปเองตามธรรมชาติ โดยจะไม่มีการปล่อยน้ำออกนอกบริเวณโรงไฟฟ้า มีการขึงตาข่ายไนล่อนล้อมรั้วกองแกลบ และปลูกต้นไม้ใบหนาล้อมรอบโครงการถึง 3 ชั้น เพื่อกันลมพัดแกลบออกไปนอกโครงการ รวมทั้งมีการดักจับควัน ฝุ่น และเถ้าแกลบ ด้วยระบบไฟฟ้าสถิตย์ (Electrostatic Precipitator - ESP) ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 99.5% จึงสามารถควบคุมการปล่อยมลสารได้เป็นอย่างดี มีเครื่องดูดซับเสียงครอบเครื่องจักร เพื่อป้องกันเสียงดังรบกวนชุมชนรอบโครงการ และด้วยเทคโนโลยี Suspension Fired ทำให้เถ้าที่ได้จากการเผาไหม้สามารถนำไปใช้ทดแทนในอุตสาหกรรมการผลิตซิเมนต์ และเนื่องจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้แกลบเป็นเชื้อเพลิง จึงเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งก๊าซดังกล่าวนั้นเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming) ดังนั้น โครงการจึงกำลังดำเนินการขออนุมัติจากรัฐบาลเป็นโครงการตามหลักกลไกสะอาด (Clean Development Mechanism หรือ CDM Project )

นอกจากจะเป็นโครงการที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสภาพแวดล้อมแล้ว บริษัทฯได้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยคืนกำไรให้แก่ชุมชนในรูปของ “กองทุนพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อม” ปีละ 1 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 25 ปี และเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ชุมชน บริษัทฯ ยังได้จัดตั้ง “กองทุนประกันผลกระทบสิ่งแวดล้อม” จำนวนเงินทุน 5 ล้านบาท สำหรับชดเชยความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากโรงไฟฟ้า นอกจากนั้นชุมชนยังมีส่วนร่วมในการดูแลและตรวจสอบการทำงานของโรงไฟฟ้าในรูป แบบของคณะกรรมการไตรภาคี อันประกอบด้วยผู้แทนจากชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และฝ่ายโรงไฟฟ้า จากความมุ่งมั่นที่จะให้ชุมชนได้เข้ามีส่วนร่วมกับโครงการอย่างต่อเนื่อง ทำให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานได้มอบรางวัลการจัดการสิ่งแวดล้อมและชุมชนดีเด่นแก่บริษัทฯ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา.........(18/5/2006) ....

ความคิดเห็นที่ 38
คนในพื้นที่
28 มีนาคม 2009
10:05:33
IP : 61.7.177.228
คำสั่งจากท่านผู้ว่าฯท่านไม่ให้สร้างแล้ว...ฉะนั้น คุณเสี่ยวเอ้อผู้มีความรู้มากมาย.....
หยุดออกความคิดเห็นได้แล้ว..ยังไงก็สร้างไม่ได้
ถ้าอยากให้สร้างก็ไปสร้างหน้าบ้านคุณโน้น..เชิญ!!!...

ความคิดเห็นที่ 39
ตุลาการ
28 มีนาคม 2009
10:29:31
IP : 222.123.130.10
เขาสรุปไปตั้งนานแล้วครับ ว่าให้ยุติการก่อสร้างทั้งหมด คุณเสี่ยวเอ้อไปอยู่ที่ไหนมาไม่ทราบข่าวบ้างเหรอครับ ส่วนข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่คุณไปค้นคว้ามาน่ะครับ เชิญคุณไปเสนอแนะให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้เลย ว่าคุณมีข้อมูลแบบนี้ แล้วสถานที่ก่อสร้างถ้าคุณต้องการให้สร้างตรงไหนก็เสนอไปเลย โดยเฉพาะบริเวณที่คุณพักอยู่ ในเมื่อมันดีแบบนี้ทำไมคุณไม่เอาซะเองครับ ถ้าภาครัฐเขาเห็นด้วยเขาคงเอากะคุณ ไปสมัครช่วยเหลือในส่วนภาครัฐก็ได้ ข้อมูลแน่นๆแบบนี้เขาคงต้องการคุณอยู่ แล้วสรุปที่คุณพูดมาทั้งหมด คุณว่าดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ แล้วถ้าเกิดผลเสียผลกระทบขึ้นมา คุณกล้ามายืนตัวเป็นๆ รับผิดชอบทั้งหมดต่อหน้าชาวบ้านรึเปล่าครับ เพราะชาวบ้านเขายังต้องอยู่ไปอีกตลอดชีวิต

ความคิดเห็นที่ 40
ตุลาการ
28 มีนาคม 2009
10:32:19
IP : 222.123.130.10
แล้วอีกอย่างที่คุณว่าถ้าอยากให้เพื่อนชาวเวปเห็นด้วยกับผม เท่าที่ผมอ่านมาทั้งหมด ก็มีแต่คนเห็นด้วยกับผมทั้งนั้น คือไม่ต้องการ ไม่อยากให้ก่อสร้าง มีใครเห็นด้วยกับคุณบ้างไหมครับ คุณเสี่ยวเอ้อ ผมว่าคุณพยายามจะเอาชนะมากกว่า ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ ว่าอะไรคืออะไร..ใช่ไหมครับ พ่อแม่พี่น้องที่เคารพ

ความคิดเห็นที่ 41
เสี่ยวเอ้อ
28 มีนาคม 2009
11:08:36
IP : 202.176.130.148
ด้วยความเคารพครับ ทั่นประธาน
ผมก็รู้ว่าเค้ายุติการก่อสร้าง แต่ ทั่นเองเป็นคนจุดประเด็นว่า หยุดโรงไฟฟ้าชีวมวล นั่นหมายความว่า มันไม่ใช่ยุติถาวร มันยุติเพื่อกลับไปศึกษาอีกครั้ง คล้ายๆดองเรื่อง คือ มันเป็นเผือกร้อน ไม่มีใครเล่นกับมวลชนหรอกเพราะหมายถึงความนิยม แต่ทั่นก็มองเห็นแต่ด้านลบของมัน ผมเอาด้านบวกมาเสนอ ทั่นกลับให้ผมหยุดพูด อย่าเกลียดกระจกเงาซะเองสิครับ
ทำไมผมจะไม่รักไม่หวงวิถีชีวิตแบบชุมชนชนบทครับ ผมเองก็เติบโตมาจากชนบท อะไรที่เป็นธรรมชาติดั้งเดิม ยังเสียดายไม่หายเลยที่ ถนนหนทางเข้าไปแล้วทำให้คูคลองหายไป ปูปลาก็หาลำบากขึ้น แต่เราเองไม่เห็นคัดค้านมันเลย กลับชอบใจเสียอีกที่ถนนราดยางขยายเข้าไปในหมู่บ้าน เบียดบังเอาวิถีดั้งเดิมไปหมด คนชนบทเริ่มใช้เงินมากขึ้น ไม่ค่อยปลูกผักไม้กินกันแล้ว เมื่อก่อนพริกมะเขือผักชีต้นหอมไม่เคยได้ซื้อ แต่ตอนนี้ต้องซื้อหมด แต่ว่ารายได้เขาเท่าเดิม เพราะทำนาเป็นอาชีพหลัก เมื่อจะมีอะไรใหม่ๆเข้ามาทั่นเองเป็นผู้ที่มีความรู้กว่าโอกาสมากกว่ากลับไม่ยอมฟังอะไร
เอาล่ะผมคงต้องพูดแค่นี้ ขอบคุณมากและยินดีด้วยอย่างยิ่งที่ได้เสวนากับท่าน
ปล. ขอให้ประชาธิปไตยที่แท้จริงจงกลับมาสู่เมืองไทยในเร็ววันด้วย หวังว่า เราคงสีเดียวกันนะครับ

ความคิดเห็นที่ 42
คิดถึงอนาคต
28 มีนาคม 2009
12:15:42
่oigur@yahoo.com
IP : 117.47.144.119
ประท้วงกันเข้าไป ถามหน่อยเหอะครับทุกท่าน ว่าบ้านคุณใช้ไฟฟ้าหรือเปล่า
แน่นอน คงไม่มีใครปฎิเสธหรอกนะว่าไม่ใช้ รู้มั๊ยว่าโรงไฟฟ้าที่ชาวเชียงรายส่วนใหญ่ใช้มาจากแม่เมาะ แล้วถ่านหินที่แม่เมาะ จะมีเพียงพอที่จะใช้ประโยชน์ได้อีกเพียงประมาณ 40 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นก็คงจะใช่ไฟจากลาวแบบเต็มตัว แล้วคุณคิดมั๊ยว่าค่าไฟมันจะหน่วยละกี่บาทหล่ะทีนี้
แน่นอนทุกอย่างมีได้ก็ต้องมีเสีย แต่ถ้ามีจัดการกับฝุ่นละอองแบบที่แม่เมาะละก็ ปริมาณที่มันเล็ดลอดออกมาจะน้อยกว่าที่ชาวบ้านเผาไร่ นา ตามข้างทางอีกนะจะบอกให้

ความคิดเห็นที่ 43
ตุลาการ
28 มีนาคม 2009
12:23:48
IP : 222.123.130.10
ผมก็ยินดีเช่นกันครับ ไม่จงเกลียดจงชังอะไร เพียงแต่ว่าอยากเสนอมุมมองเท่านั้นเอง ส่วนที่คุณเสี่ยวเอ้อคาดหวังว่าเราคงสีเดียวกัน ผมมีสีเดียวในหัวใจเช่นกันครับ สีที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สีแห่งความเป็นคนไทย ไม่แบ่งแยกครับ สุดท้ายผมคงจะจบการเสวนาแต่เพียงเท่านี้ จากนั้นก็แล้วแต่ดุลพินิจของพ่อ แม่ พี่ น้อง ประชาชนที่เคารพรักทุกท่านนะครับ ทุกท่านที่รักเชียงราย รักชาติไทย ด้วยความสดุดี แก่ชาติพลี เพื่อแผ่นดินเกิด

ความคิดเห็นที่ 44
คนลำพูน
29 มีนาคม 2009
19:58:21
IP : 124.121.185.188
ชีวมวลเรายังตามหลังพม่าอยู่เยอะครับ ถ้าลองได้ไปตามชนบทของเค้าจะเห็นว่าแทบทุกที่จะสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลใช้กันครับ ราคาน้ำมันบ้านเค้าแพงกว่าเราเยอะมาก ภูมิประเทศของเค้าก็ค่อนข้างลำบากในการสร้างเสาส่งไฟฟ้า จึงจำเป็นต้องเพิ่งพลังงานชีวมวล แน่นอนครับเทคโนโลยีเค้าอาจจะไม่ค่อยทันสมัยเท่าไหร่ ระบบการบำบัดน้ำเสียยังไม่ค่อยดีหรอก แต่เรื่องมลภาวะทางอากาศไม่ค่อยมี ผมมั่นใจว่าเทคโนโลยีของบ้านเรามีคนเก่งๆเยอะ สามารถพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแน่นอนครับ ถ้ามันไม่ดีจริงเค้าคงไม่มั่นใจและกล้าจะมาลงทุนขนาดนั้นหรอกครับ ใครๆก็กลัวทั้งนั้นถ้าทำไม่ดีอะไรจะเกิดขึ้นตามมา บางทีเราควรจะหันหน้ามาทำความเข้าใจอะไรๆให้มากขึ้น ประเทศไทยเราจำเป็นต้องพึ่งพาพลังงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในหลวงท่านก็ทรงเป็นห่วงเรื่องนี้และสนับสนุนการให้พลังงานทดแทนมาตลอด บางทีเราควรที่จะให้โอกาสสนับสนุนคนไทยด้วยกันเองแสดงฝีมือบ้าง ผมคงไม่เถียงนะครับว่าคนที่มาลงทุนเค้าก็หวังผลกำไรกันทั้งนั้น แต่ถ้าทำแล้วมีผลดีกันทุกฝ่าย ประเทศไทยเรามีแต่ได้กับได้ ผมก็เคยศึกษาข้อมูลมาบ้างนะครับ เศษวัสดุทางการเกษตรของบ้านเรา ถ้าสามารถจัดการนำมาใช้ประโยช์น แทนที่จะเผาทิ้งตามท้องไร่ปลายนาให้เป็นมลภาวะที่เราเจอกันอยู่ตอนนี้ เราเอามาเผาทำไฟฟ้าได้ปีละเป็นแสนล้านบาทเลยนะครับ ลดภาระการนำเข้าไปโขเลย และผมเชื่ออย่างนึงว่าคนที่ร่วมลงทุนสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าในลาวคงไม่ชอบใจแน่ ถ้าเราผลิตกระแสไฟฟ้าชีวมวลกันได้เองเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ถ้ามีโอกาสผมก็จะไปช่วยทำความเข้าใจกับชุมชนของผม เพราะนายกเทศบาลเค้าสนใจจะสร้างอยู่เหมือนกัน

ความคิดเห็นที่ 45
คนลำพูน
30 มีนาคม 2009
11:43:18
IP : 124.121.184.116
จริงๆ ผมไม่ได้สนับสนุนให้พวกนายทุนมาสร้างกันแบบใหญ่โตนะครับ ผมอยากเห็นแต่ละชุมชน อบต อบจ สร้างโรงเล็กๆของแต่ละชุมชน ขนาดไม่ต้องใหญ่มาก แล้วบริหารจัดการกันเอง ผมว่ามันสร้างเงินหมุนเวียนได้ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะครับ เอาง่ายๆ สมมุติสร้างขนาด 150 kw หมายความว่า ขายไฟฟ้าชั่วโมงละ 150 หน่วย หนวยละ 3 บาท ตกชั่วโมงละ 450 บาท วันนึงก็เปิดทำงานสัก 16 ชั่วโมง สองกะ ก็จะขายไฟฟ้าได้วันละ 7200 บาท ปีนึงทำงานสัก 300 วัน ก็มีรายได้ไม่ต่ำกว่าสองล้านบาทแล้วครับ แค่เสนอความคิดเห็นเล่นๆนะครับ แต่ก็อยากให้แถวบ้านผมทำกันจริงๆ เห็ฯชาวบ้านเผากิ่งลำไย กองฟาง ซังข้าวโพดทิ้งเฉยๆแล้วไม่สบายใจ

ความคิดเห็นที่ 46
กกสัก
31 มีนาคม 2009
10:50:13
IP : 117.47.40.13
เปิดหู เปิดตา และ เปิดใจ
รับข้อมูลกันหลายๆฝ่าย ถ้าดี แต่แพ้เสียงไม่เอา ต้องยอมรับ
ถ้าไม่ดี ฝ่ายรัฐยังผลักดัน ต้องแสดงพลัง
ถ้าดีจริง ยอมรับได้ไหม
หลายแห่ง ทำได้ดี เพราะองค์ประกอบอะไร?
อีกหลายที่ มีแต่ความเดือดร้อน มันมีสาเหตุจากปัจจัยอะไรบ้าง?
เรียนรู้ ศึกษา และ ไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ คนที่รู้ไม่อคติ ค้านลูกเดียว ไม่รับฟัง
คนที่ทราบ และเห็นจริง ต้องสนับสนุน เผยแพร่ความรู้
ชาวบ้าน ต้องได้ข้อมูลที่ถ่องแท้ ทั้งดี ทั้งร้าย ด้านบวก ลบ ทั้งหมด

พวกที่ต้องการเร่งๆให้เกิด มักจะซ่อน ด้านเสีย ไม่ค่อยเปิดเผย
ผลก็เลยไม่โปร่งใส มีเลศนัย แค่ สงสัยว่าไม่ดี ก็สอบตกแล้ว

ที่ยกเลิก อาจมีหลายอย่าง ยกเลิก เพราะมีการเป็นเมืองขึ้นกันใหม่
หรือ ยกเลิก (ชั่วคราว) เพื่อกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ ในยุคของใคร?
หรือ ยกเลิกไปเลย ไปหาที่ใหม่ ที่ไม่มีการคัดค้าน
หรือ รัฐที่ทำสัญญาไว้ ต้องมาเสียค่าโง่ให้เขา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
(ดู กรณี เช่าอ่างเก็บน้ำ ทำสนามกีฬา แล้วกลายเป็นเจ้าเข้าครอง ของ
บาง อบต.... ทำไว้ แล้ว ต้องมาเป็นปัญหาให้ คนรุ่นหลังแก้ไขเป็นตัวอย่างนะ)

ต้องทำความเข้าใจกันทุกแง่มุมครับ

ไม่ ฟัน ธง

ความคิดเห็นที่ 47
ผู้ชมคนหนี่ง
01 เมษายน 2009
04:01:44
IP : 61.7.150.221
ผมลองค้นหาดู เท่าที่ทราบโรงไฟฟ้าชีวมวล นี่มีอยู่เยอะพอสมควรเลยหล่ะในประเทศ

แถวภาคกลาง ภาคอีสาน ส่วนใหญ่เป็นโรงสีข้าว กับโรงน้ำตาล คงเพราะแถวนั้นมีวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเยอะ

ทางภาคใต้นี่ก็เริ่มมีบ้างแล้ว เป็นพวกเศษไม้กับกะลาปาล์ม

แต่ทางภาคเหนือนี่ยังไม่มีเลยนะ หรือมีบ้างแล้ว ใครรู้ช่วยบอกหน่อย ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะไปอ่านเจอเว็บไหนจำไม่ได้ล่ะ

ค้นหาดูมั่ว ๆ ประมาณว่าเชื้อเพลิงชีวมวลทางภาคเหนือนี้มีเหลือเยอะ แล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าที่ควร ตัวอย่างเช่น ราคาเชื้อเพลิงแกลบ ตันละ 300 บาท แต่แถวภาคกลางกับภาคอีสานตันละเป็นพัน บางช่วงขึ้นไปถึง 1200 บาทเลยก็มี

เพราะเหตุนี้มั้งที่นายทุนก็เลยอยากมาสร้างโรงไฟฟ้าที่นี่ ผมก็เห็นว่ามันก็มีดี มีประโยชน์ ที่จะเอาสิ่งที่คิดว่าไม่มีค่ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพียงแต่ว่าคนที่เค้าอยู่ในพื้นที่เค้าไม่ได้อะไรด้วย ยังไม่พออาจจะต้องมาลำบากด้วยในภายหลัง สรุป....คือยังไม่มีข้อสรุป อิ อิ

(อย่ามาด่าผมนะว่า)....ถ้าอยากสร้างก็ไปสร้างที่บ้านคุณเถอะ ...

(ผมก็จะถามว่า)....ให้ไปสร้างที่บ้านผม แล้วจ่ายไฟมาให้ที่บ้านคุณได้ใช้ด้วยงั้นเหรอ

มาเสวนากันต่อเถอะ...ดีมีประโยชน์ ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผล ได้ความรู้ดีออก สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีความรู้แบบผม



ความคิดเห็นที่ 48
สะอาด
22 เมษายน 2009
14:57:22
IP : 117.47.77.84
ที่อุบลบ้านคำสร้างไชยก็ไม่เอาโรงไฟฟ้าเหมือนกันกำลังประท้วงกันอยู่

ความคิดเห็นที่ 49
น้อย
22 เมษายน 2009
15:32:10
IP : 118.173.249.210
ตกลงคือตอนนี้ไม่มีโรงไฟฟ้าชีวมวลในประเทศไทยเลยใช่ไหมครับ เพราะเป็นอีกหนึ่งที่จะปลูกตะกูส่งป้อนโรงไฟฟ้า เพราะเห็นเขาpresent กันน่าดู

ความคิดเห็นที่ 50
คนบ้านเดียวกันแค่มองตากันก็เข้าใจอยู่
02 พฤษภาคม 2009
15:48:15
IP : 118.174.179.248

ความคิดเห็นที่ 51
คนบ้านเดียวกันแค่มองตากันก็เข้าใจอยู่
02 พฤษภาคม 2009
15:51:10
IP : 118.174.179.248
อยากถามท่านจริงๆ เถอะพวกท่านที่มีผลประโยชน์เพียงไม่กี่คนพวกท่านอยู่ทุกวันนี้ท่านรู้สึกอย่างไรกับสังคมรอบข้างของท่านและครอบครัวของท่าน ผลประโยชน์แค่นี้คุ้มกันไหมกับการถูกสังคมรอบข้างกระทำกับท่านทุกวันนี้ ถ้าท่านยังไม่หยุดท่านจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว เพราะชาวบ้านทุกวันนี้หูต่างเขาสว่างแล้ว

ความคิดเห็นที่ 52
คนเคยกลัวโรงไฟฟ้า
20 พฤษภาคม 2009
17:56:53
chubbybelle@gmail.com
IP : 118.172.208.36
เปิดมาเจอ Web นี้โดยบังเอิญ...ได้อ่านเนื้อความโดยคร่าวๆ..
ต้องขอเป็นกำลังใจให้ "คุณเสี่ยวเอ้อ" และ "คุณคิดถึงอนาคต"
เพราะต้องมาอธิบายอย่างมีเหตุมีผล ให้คนค้านอย่างไม่มีเหตุผลฟังอย่างอดทน

การทำโรงไฟฟ้าชีวมวลนั้น ถึงแม้จะมีในประเทศไทยมานานแล้ว แต่การเป็นที่รู้จักแพร่หลาย หรือการรับรู้ของชาวบ้านโดยทั่วไปนั้น ยังมีไม่มากเท่าที่ควร อีกทั้งทางรัฐบาลแต่ละชุดที่มีนโยบายออกมาปาวๆ ว่าสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน โดยพยายามผลักดันให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน แต่ในทางปฏิบัตินั้น เรียกได้ว่าไม่ได้ช่วยเลย แถมข้าราชการในพื้นที่ และนอกพื้นที่หลายๆ ส่วน เมื่อเห็นปัญหาความไม่เข้าใจในชุมชน แทนที่จะช่วยกันมาดูแลอย่างเป็นธรรม กลับหลบเลี่ยงปัญหา ทิ้งปัญหาให้เอกชนทั้งหลายแก้ปัญหากันเอง อย่างเช่น ที่บอกว่า ผู้ว่าฯ สั่งปิดโรงไฟฟ้า < - - ?!?!

คำว่า ชาวบ้าน เป็นคำที่ยิ่งใหญ่ เป็นกลุ่มที่สำคัญ ใครๆ ก็เอาใจใส่ แต่ควรเอาใจใส่อย่างมีเหตุผล เป็นธรรมดาที่ชาวบ้านจะกลัวผลกระทบ เมื่อได้ยินคำว่า "โรงไฟฟ้า" เพราะการจะมีโรงไฟฟ้าในพื้นที่หรือไม่นั้น เขาอาจจะยังไม่รู้สึกว่าเขาจะเดือดร้อน หรือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะอยู่มาชั่วลูกชั่วหลาน ไม่มีโรงไฟฟ้า เขาก็อยู่ได้ แต่ถามว่า หากอีก 40-50 ปี (ซึ่งดูเหมือนอีกยาวนาน) การไฟฟ้าที่แม่เมาะไม่มีวัตถุดิบมาผลิตไฟฟ้า หรือถ้าทางประเทศเพื่อนบ้าน ที่ทุกวันนี้เราต้องซื้อไฟฟ้าเขาใช้อยู่ เขาขึ้นราคาขึ้นมา โดยที่เราไม่มีส่วนที่ผลิตใช้เอง มาช่วยเฉลี่ยราคา..ในวันนั้น เราจะแก้ไขให้ทันท่วงทีได้อย่างไร แล้วคนที่เดือนร้อนคือใคร..ไม่ใช้ชาวบ้านหรือ??

หลายๆ คนอาจบอกว่า เราไม่ใช่คนพื้นที่ ไม่รู้หรอกว่าชาวบ้านเดือดร้อนจริงๆ มิเช่นนั้น พวกชาวบ้านไปเอาเงินกับโรงไฟฟ้า แล้วปล่อยให้โรงไฟฟ้าสร้างขึ้นมาไม่ดีกว่าเหรอ?..... ชาวบ้านบางกลุ่มในหลายๆ ชุมชน กลัว-ไม่รู้ เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าฯ จึงยึดเอาแบบอย่างที่ประท้วง มาเป็นเกณฑ์ว่า เขาประท้วงที่นั่น ที่นี่ แสดงว่ามันไม่ดีแน่ๆ แต่ไม่ได้มาศึกษาถึงเครื่องจักร และมาตรการของโรงไฟฟ้าว่าเขามีมาตรการป้องกันอย่างไร อย่างจริงๆ จังๆ เพราะถ้าศึกษาจริง เชื่อว่า เขาจะรู้ว่า ชาวบ้านสามารถมีส่วนร่วมโดยเข้าเป็นคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งสามารถเข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้า ได้ตลอดเวลา และมีอำนาจในการสั่งปิดได้ ในกรณีที่โรงไฟฟ้าไม่ทำตามกฎ-กติกา ที่ให้ไว้กับชาวบ้าน ในวันทำสัญญาประชาคม ซึ่งถ้าปิดตอนนี้ซิ..โรงไฟฟ้าจะเสียหายกว่ามาก

จากที่ได้ตามศึกษามาระยะหนึ่ง..จึงได้ทราบมาว่า...ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เป็นผู้นำประท้วงประเภทหัวชนฝา ถึงขนาดว่ารู้ว่ามันดีแค่ไหนก็ตาม แต่ค้านอย่างเดียว มีสาเหตุมาจาก..
1) ไม่ได้ขายที่ดิน
2) ต้องการล้มล้าง-แก่งแย้งอำนาจการบริหารในชุมชน โดยเอาโรงไฟฟ้ามาเป็นประเด็น ก็คือประเด็นการเมืองฯลฯ
3) ความขัดแย้งส่วนตัวกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้า จึงต้องการเอาชนะให้ได้เท่านั้น
4) ต้องการเพิ่มมูลค่าตัวเองในการเรียกร้องอะไรบางอย่าง (ไม่ใช่ทุกที่ ที่มีข้อนี้ แต่ก็มีบางที่)
5) มีองค์กรอิสระ ที่ต้องการเบิกงบประมาณมาใช้ มาปลุกระดมและสนับสนุนในการให้ข้อมูลเบี่ยงเบน (ไม่ใช่ทุกที่ ที่มีข้อนี้ แต่ก็มีบางที่)

แต่เวลานำข้อความเสนอต่อชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่..ก็จะให้เหตุผลว่า เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลูกหลานในอนาคต จึงต้องขัดขวาง หากคนกลุ่มนี้มีความห่วงใยในชุมชนจริง ควรร้องให้ข้าราชการมาเป็นคนกลาง ให้เชิญผู้มีความรู้ในสาขาต่างๆ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม, สาธารณสุข, อุตสาหกรรม, พลังงาน และฯลฯ มา แล้วมาตั้งเวที ซักเลย..ว่า โรงนี้ ใช้เครื่องจักรแบบไหน, มีมาตรการจัดการกับสิ่งแวดล้อมอย่างไร และชาวบ้านก็สามารถซักถามสิ่งที่สงสัยว่าเป็นอย่างไร.. เชิญสื่อในท้องถิ่นมาเป็นพยาน แล้วมาตัดสินใจกันว่ายังไง..

ที่เรารู้เรื่องค่อนข้างเยอะ เพราะมีโรงไฟฟ้าชีวมวลมาสร้างในพื้นที่เรา แรกๆ ก็กลัวกันอย่างนี้หละ แม่ก็มาถามว่าเอาไงดี มีคนมาชักชวนให้ไปประท้วง ฉันก็เลยตามไปศึกษาทุกที..จนรู้.. ก็เลย บอกแม่ และเพื่อนบ้าน ให้สนับสนุนการสร้าง โดยไปแจ้งและขีดกฎ-กติกา ว่าเราต้องการอะไรบ้าง กับทางผู้ใหญ่บ้าน ให้เขารวบรวมเรื่องที่เรากลัว ไปเจรจากับโรงไฟฟ้าฯ ก็เห็นโรงไฟฟ้าฯ เขาให้ความร่วมมือดีเหมือนกันนะ จนเขาได้สร้าง มา ร่วม 4 ปีแล้ว ก็ไม่เห็นมันเป็นพิษภัยอะไร... นาข้าว ก็ยังปลูกได้เหมือนเดิม.. น้ำเสียก็เห็นมี.. จะมีก็ฝุ่น ที่มีเยอะๆ บ้าง ปีละ 1-2 ครั้ง แต่พอแจ้งเขาไป เขาก็รีบมาชี้แจงแก้ไข.. ก็ดีนี่นา ทุกวันนี้ ทุกฝ่ายก็มีความสุขดี...แค่หันหน้ามาคุยกันอย่างมีเหตุผลเท่านั้นเอง...


ความคิดเห็นที่ 53
คนรักษ์ดอกคำใต้
25 พฤษภาคม 2009
21:47:14
IP : 118.172.128.111
ขอเป็นกำลังใจให้ประชาชนผู้รักษ์สิ่งแวดล้อมชาวเชียงรายทุกคน...
ที่บ้านผม ดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ก็มีการยัดเยียดสร้างโรงไฟฟ้าเหมือนกัน ชาวบ้านมารู้
ก็ต่อเมื่อมีการเตรียมที่ดิน นำนายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไปดูงานที่พิจิตรเรียบร้อยแล้ว
มีการล็อบบี้ ผู้นำ และมอบผลประโยชน์ให้
แต่นั่นแหละ.. ชาวบ้านไม่เอาก้ออยู่ไม่ได้ มีการต่อต้านอย่างเหนียวแน่น จากประชาชน ทุก
หมู่เหล่า ข้อที่น่าสังเกตก็คือ พวกนี้แม้มีการทำประชาพิจารณ์ซึ่งผลออกมาว่า ชาวบ้านไม่เอา พวกมันจะไม่ยอมรับมติชาวบ้าน

ความคิดเห็นที่ 54
ชวน
24 มิถุนายน 2009
14:24:49
annopk@gmail.com
IP : 61.19.65.245
เห็นด้วยกับขอสังเกตุของ"คนเคยกลัวโรงไฟฟ้า"ประเด็นการคัดค้าน 5 ข้อใกล้เคียงกับเหตุการณ์มากที่สุด ต้องถามชาวบ้าน หรือกลุ่มที่คัดค้านว่า
เห็นด้วยหรือไม่
ถ้าเห็นด้วย ก็ควรรับฟังข้อมูลจากโรงไฟฟ้า และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยคิด
ถ้าไม่เห็นด้วย ก็บอกไปเลยว่าไม่ต้องการ แต่ไม่สามารถบอกเหตุผลให้ผู้อื่นเข้าใจได้ อย่างนี้เข้าเรียกว่าใช้ หลักกูในการตัดสิน

ความคิดเห็นที่ 55
cane999
07 กรกฏาคม 2009
18:03:17
cane999@hotmail.com
IP : 203.170.154.50
ก็พึ่งผ่านเข้ามาดูข้อมูลครับ

ที่บุรีรัมย์ก็มีโรงไฟฟ้าชีวมวลครับ

ติดตามหาข้อมูลได้ที่ศาลจังหวัดเลยนะครับ

ฟ้องร้องเรื่องมลภาวะเบื้องต้นชนะแล้วตอนนี้โรงงานอุธรณอยู่

เข้าใจหลักการและประโยชน์ของโรงไฟฟ้าชีวมวลนะครับ

แต่ถ้ามาเจอแบบที่นี่รับไม่ไหวใครจะรับประกันหลังสร้างแล้วได้

หวังจะพึ่งหน่วยงานต่างๆให้ดูแลช่วยเหลือก็รับประกันความแย่ได้เลยครับ

ปล..ถ้าทำได้ขอให้บริษัทที่ทำแล้วดีมาเทกโอเวอรเอาโรงงานที่นี่ทำแทนเจ้าเดิม

ความคิดเห็นที่ 56
จำรัส
26 กรกฏาคม 2009
00:41:44
tpk2013@hotmail.com
IP : 119.31.81.62
ไม่ต้องเถียงกันครับ พื้นที่ที่เขายินดีต้อนรับให้สร้างก็มีอีกเยอะ ที่ไหนเขาไม่ยินดีจะอธิบายอย่างไรเขาก็ไม่ฟังหรอกเพราะธงก็คือเขาไม่เอา เอาเป็นว่าไปหาพื้นที่ใหม่ บางแห่งเขาก็ตัดสินใจกันโดยอาศัยข้อมูลเขาก็เอา บางแห่งเขาก็มีธงของเขาอยู่แล้วซึ่งอาจจะมากกว่า 5 ข้อที่มีการตั้งข้อสังเกตนั้นด้วย เขาก็ไม่เอา แต่ในเมื่อกติกาบอกว่าถ้าชุมชนไม่เอาสร้างไม่ได้ อันนี้อย่าไปตะแบง ผมเองนั้นมีประสบการณ์ไปบรรยายให้ชาวบ้านฟังและทำประชาพิจารณ์มาเป็น 20 อบต.แล้ว มีชาวบ้านเอา 4 แห่ง แต่อย่าเอาจำนวนสัดส่วนมาตัดสินดีหรือไม่ดีนะครับ เพราะบางแห่งที่เอาเขาบอกเขารู้จักและเข้าใจอยู่แล้วไม่ต้องพูดมากให้ชาวบ้านโหวตเลย ปรากฎว่าผ่านอย่างไม่มีเสียงค้านด้วย ทุกหมู่ด้วย ส่วนบางแห่งบอกว่าอยากผ่านให้แต่ขอคุยตัวเลขผลประโยชน์ก่อน ก็มี ผมขอสรุปประสบการณ์ให้ทราบดังนี้ก็แล้วกัน

กรณีที่ประชาพิจารณ์ไม่ผ่านมักเกิดจาก (ไม่ได้เป็นทุกที่)
-มีคนอยากขายที่มากกว่า1ราย และมีบางคนไม่สมหวัง
-คนในพื้นที่คิดกันเองว่ามีบางคนรับเงิน บางคนไม่ได้ ซึ่งอาจจะจริงหรืออาจจะไม่มีใครรับเงินเลยก็ได้
-มีการแบ่งข้างแย่งอำนาจในพื้นที่ในการเลือกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกอบต.
-มีใบสั่งจากในหรือนอกพื้นที่ว่าอย่าผ่านให้รายนั้นๆเพราะอาจมีการแย่งซื้อแกลบ(มักเกิดกับแกลบ แต่ไม่ค่อยเกิดกับเชื้อเพลิงตัวอื่น)
-มีนักเคลื่อนไหวจากนอกพื้นที่ที่ได้รับเงินเดือนNGOบางองค์กรเข้าไปเคลื่อนไหวสร้างผลงาน ต่อมาก็เลยมีแนวร่วมคนพื้นที่
-ชุมชนไม่เข้าใจจริงๆ และไม่เอาจริงๆ และถึงจะอธิบายอย่างไรก็ไม่เอา และไม่อยากให้ไปอธิบายอีกต่อไปเพราะรบกวนเวลาเขา
-และอีกจิปาถะ

ส่วนที่ผ่านส่วนมากเกิดจากชุมชนมีความเข้าใจอยู่ก่อนแล้ว และส่วนใหญ่ไม่ค่อยต้องอธิบายมาก

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเชื้อเพลิงชีวมวลนั้นส่วนใหญ่ทุกท่านจะทราบกันแล้วเพียงแต่อยู่ที่ชุมชนไหนเอาไม่เอาเท่านั้นเอง

ต่อไปนี้เป็นข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ ผมเองนั้นเป็นวิศวกรที่ทำงานด้านการสร้าง เดินเครื่อง ซ่อม เจ้าโรงไฟฟ้า ทั้งถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ และชีวมวลมา20ปีแล้ว ข้อให้ข้อมูลท่านดังนี้
-ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ยินว่าเป็นโรงไฟฟ้าจะกลัวเพราะมันฟังน่ากลัว แต่ถ้าบอกว่าเป็นโรงอย่างอื่นบางทีกลับเฉยทั้งๆที่มีโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่อยู่ภายใน และใช้ถ่านหิน100%ด้วยซ้ำ
-โรงไฟฟ้าชีวมวลสร้างและเดินเครื่องในไทยมาเป็น30-40ปีแล้ว มีรวมกันทั้งใหญ่และเล็กเป็นร้อยๆโรง ทั้งหมดอยู่ในโรงน้ำตาล โรงเยื่อและกระดาษ โรงสี โรงแป้ง แอลกอฮอล์ โรงสกัดน้ำมันปาล์ม ไม้อัดและปาร์ติเกิล+เอ็มดีเอฟบอร์ด ต่อมาภายหลังมีมากขึ้นในทุกอุสาหกรรมเช่น โรงอาหาร อาหารสัตว์ สิ่งทอและฟอกย้อม และอื่นๆ เพียงแต่ชาวบ้านไม่รู้จัก จึงไม่รู้ว่าโรงงานเหล่านี้มีโรงไฟฟ้าชีวมวลอยู่ภายใน
-โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อื่นๆมีโรงไฟฟ้าอยู่ภายใน เช่นโรงเหล็ก ซิเมนต์ โรงกลั่น โรงแยกก๊าซ รวมทั้งนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งก็มีโรงไฟฟ้าเป็นของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ถ่านหินและก๊าซเป็นเชื้อเพลิง แม้แต่โรงกระดาษ และโรงน้ำตาลขนาดใหญ่ก็ใช้ถ่านหิน แต่เช่นกันชาวบ้านไม่รู้เพราะไม่รู้จัก
-กระบวนการทุกกระบวนการ กิจกรรมทุกกิจกรรมที่มนุษย์ทำ จะส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนด้วยกันทั้งสิ้น การเผาหญ้า ฟาง ขยะ การเผาถ่าน ส่งผลกระทบมากกว่าโรงไฟฟ้าชีวมวลอย่างชนิดเทียบไม่ได้ เพราะการเผาโดยชาวบ้านนั้นไม่ได้ทำในระบบปิด ไม่ได้ทำในสภาวะที่มีการควบคุม ไม่ได้ทำในเครื่องจักรอุปกรณ์ทีออกแบบมาเฉพาะ ดังนั้นถ้าเผาเชื้อเพลิงเท่าๆกัน (เผาฟาง1ตันในนา กับเผาฟาง1ตันในบอยเลอร์) เผาในนาจะส่งผลกระทบมหาศาล
-ในเมื่อกระบวนการทุกกระบวนการ กิจกรรมทุกกิจกรรมที่มนุษย์ทำ จะส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนด้วยกันทั้งสิ้น ก็หมายความว่ากระบวนการผลิตไฟฟ้าโดยชีวมวลซึ่งใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติและมีวงจรกระบวนการผลิตสั้นๆ (สั้นกว่ากระบวนการผลิตอื่นๆเกือบทุกอุตสาหกรรม เนื่องจากเพียงแค่เปลี่ยนรูปพลังงาน) ก็จะรบกวนสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า โรงมาม่า โรงฆ่าสัตว์ ห้องเย็น โรงงานผลิตรถยนต์ โรงเงาะกระป๋อง โรงผลิตสี โรงฟอกย้อม โรงกระดาษ โรงน้ำตาล โรงเยื่อ โรงโม่หิน และโรงอื่นๆเกือบทุกชนิด
-ด้วยวิธีการทางห้องแล็บ สามารถเช็คได้ว่าฝุ่นบนหลังคา บนพื้นบ้านในพื้นที่ มาจากที่ไหน มาจากโรงไฟฟ้า หรือมาจากโรงโม่ หรือมาจากคนเผาฟาง เผาถ่าน หรือมาจากทำถนน หรือมาจากรถบรรทุกและรถอื่นๆที่วิ่งบนถนน ซึ่งเกือบจะร้อยละร้อยมาจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่โรงไฟฟ้า เพราะอุปกรณ์โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ประสิทธิภาพสูง
-ทำไมกฎหมายโรงไฟฟ้าถึงเข้ม ทำไมโรงไฟฟ้ามีอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง แปลว่ามันต้องอันตรายซิ แปลว่ามันต้องไม่ดีซิ ไม่ใช่ มันเป็นเพราะว่าพอพูดว่าโรงไฟฟ้าชาวบ้านก็กลัวแล้ว เพราะเมื่อก่อนไฟฟ้าผลิตโดยรัฐบาลอย่างเดียว(กฟผ)ชาวบ้านไม่รู้จัก พอแม่เมาะมีปัญหา ชาวบ้านก็เลยกลัว กลัวโดยไม่มีความรู้ ว่าขึ้นชื่อว่าโรงไฟฟ้าเหมือนกัน แต่ก่อมลพิษไม่เหมือนกัน ขึ้นกับว่าใช้อะไรเป็นเชื้อเพลิง ถ่านหิน น้ำมันเตา ก๊าซ นิวเคลียร์ ชีวมวล แล้วพอชาวบ้านกลัว ราชการก็ไม่ประชาสัมพันธ์ ผลักภาระไปที่ผู้ประกอบการอย่างเดียวโดยออกกฎระเบียบเข้มๆ เพราะกลัวโดนเด้ง(ถ้ามีปัญหา) ผู้ประกอบการในเมื่ออยากทำก็ต้องผ่านเกณฑ์ ขนาดผ่านเกณฑ์แล้วก็ยังต้องมาทำเรื่องมวลชนเองอีก ราชการทำอะไรไม่เป็น ถามเป็นคำเดียวชาวบ้านเอาไม่เอา
-เรื่องEIAนั้น ในเมื่อกติกาบอกว่าต่ำกว่า 10 MW ไม่ต้องทำก็คือไม่ต้องทำ ถ้าคิดว่าการทำ 9.9 MW เป็นการเลี่ยงแล้วประกาศใหม่ว่าใครทำ 10 MW +/- 0.5 ต้องทำ EIA (แปลว่า 9.5 ต้องทำ) ผู้ประกอบการก็จะทำ9.4 แล้วจะบอกว่าเลี่ยงได้อย่างไร ก็กติกาเขียนอย่างนี้ เขาก็มีสิทธิ ทีชุมชนไม่เอายังต้องถอยเลย ก็กติกามันเขียนอย่างนี้ ถ้าราชการเขียนต่อไปนี้โรงไฟฟ้าทุกขนาดต้องทำ EIA ทุกคนก็ต้องทำ
-โรงไฟฟ้า 10 MW ในทางวิศวกรรมเล็กมากๆ มันไม่สามารถก่อมลพิษได้เท่ากับสร้างถนนสักเส้น หรือระเบิดหินภูเขาสักลูก มันเทียบกับฝุ่นที่เกิดจากลานมัน ท่าข้าว เผาฟาง ไม่ได้หรอก เพียงแต่มันผิดที่มันชื่อโรงไฟฟ้า
-สร้างโรงไฟฟ้าที่ไหนก็เหมือนกัน มันส่งผลกระทบเหมือนกันไปทั่วทั้งโลก ไม่เฉพาะบ้านคุณบ้านผม แต่มันทั้งโลก สร้างโรงงานโตโยต้าที่ฉะเชิงเทรา คนเชียงรายก็ได้รับผลกระทบเรื่องโลกร้อน เผาฟางที่เชียงรายคนกรุงเทพก็ได้รับผล จีนสร้างโรงนิวเคลียร์เราก็ได้รับผล เพียงแต่ถ้ามันใกล้มันก็กระทบเยอะ(ถ้าเครื่องมีปัญหา) ถ้าไกลมันก็เสียวน้อยหน่อย
-ชุมชนที่เขาเอาเขาบอกว่า ในเมื่อยังไงๆก็ได้รับผลกระทบแล้วทำไมไม่ให้มันเกิดในพื้นที่บ้านเขาล่ะ ทุกคนใช้ไฟต้องจ่ายค่าFTเหมือนกัน แต่คนในพื้นที่โรงไฟฟ้าเท่านั้นที่จะได้ใช้เงินกองทุนรอบโรงไฟฟ้า ในเมื่อฉันเสียสละให้คนทั้งประเทศแล้ว ฉันมีสิทธิใช้เงินกองทุน และให้ภาษีเข้าท้องถิ่นฉันด้วย มีงานทำด้วย เศษวัสดุก็ขายได้ ไฟก็ไม่ค่อยตก ได้ไฟทางด้วย มีน้ำประปากับน้ำดื่มจากโรงไฟฟ้าอีก ได้ชื่อว่าช่วยโลกด้วย
-ส่วนคนที่บอกไม่เอาเขาก็รู้มันดี แต่เขาชั่งน้ำหนักดูแล้วเขาไม่เอา (จะด้วยกลัวกลับคำแล้วเสียหน้า หรือไม่ได้ผลประโยชน์ หรือคิดแล้วยังไงก็ไม่เอาก็ตาม) เขาก็ยังจะใช้แอร์ ดูทีวี ใช้น้ำอุ่น อยู่นั่นแหละ แต่ฉันไม่เอาโรงไฟฟ้า ใครจะเอาก็ช่างแต่ฉันไม่เอา จะไปสร้างตรงไหนก็ช่างแต่อย่ามาใกล้ ใครจะมีวิธีอย่างไรที่จะจ่ายไฟมา ฉันไม่สน แต่ถ้าไม่มีไฟใช้ ฉันก็จะโวยอีกด้วย

ตกลงว่าถ้าที่ไหนเขาไม่เอาก็อย่าไปสร้าง ไปหาที่ใหม่ ที่ๆเขาอยากได้มีอีกเยอะ ผมเองนั้นสร้างในพื้นที่ๆที่เขาเอาอย่างจริงใจไม่ต้องอ้อนวอนเลย บางแห่งก็สร้างบ้านผมอยู่ด้วยและย้ายทะเบียนบ้านไปด้วย จะได้เป็นคนพื้นที่มีสิทธิมีเสียงเลือกตั้งจริง ผมกล้ายืนตัวเป็นๆรับประกันทุกที่ถ้าทำแล้วมีปัญหา ผมนี่แหละจะปิดมันเอง แต่ถ้าผมทำตามกฎกติกาทุกอย่าง จนกระทั่งเดินเครื่องแล้วก็ไม่มีปัญหา วันดีคืนดีใครคิดจะแกล้ง รวมคนมาชูป้ายจะปิดโรงงานผม ผมจะทำให้เขาจำไปตลอดชั่วลูกชั่วหลาน ผมถือว่าผมก็คนไทย ทำงาน เสียภาษีอย่างถูกต้องมาตลอด อาจจะทำงานมากและเสียภาษีมากกว่าใครหลายๆคนด้วย ในฐานะที่ผมเป็นคนไทยและชาวโลกผู้หนึ่ง ผมมีสิทธิที่จะพัฒนาชาติและช่วยโลกของลูกๆผมเท่าที่ผมจะทำได้ตามกำลังความสามารถ ผมมีสิทธิที่จะฝันและสร้างอนาคตของผมตามสิทธิที่กฎหมายมีให้ ผมมีสิทธิซื้อที่ ปลูกบ้าน สร้างโรงงาน ตราบเท่าที่ผมปฏิบัติตามกฎหมาย และไม่ก่อความเดือดร้อนละเมิดใคร จะไม่มีวันที่ใครจะทำอะไรผมได้ ถ้าชุมชนไหนเขาไม่อยากรับผมเข้าเป็นสมาชิก ไม่อยากได้ผมเป็นเพื่อนบ้าน ผมก็ไม่เห็นจะต้องคบเขา ตรงข้าม ชุมชนไหนอ้าแขนรับผมด้วยจริงใจและมีอุดมคติเดียวกัน ผมก็จะเข้าร่วมขบวนการและพัฒนาท้องถิ่นไปด้วยกัน ในเมื่อเอาโรงงานเอาทรัพย์สินราคามากมายไปตั้งตรงนั้น ก็ต้องร่วมหัวจมท้ายกัน ถ้ามันก่อความเดือดร้อนเป็นเราเราจะทำอย่างไร เป็นอย่างไรก็เป็นกัน คนเราถ้าจริงใจซะอย่าง ไม่ต้องกลัว ไปไหนไปกัน มีปัญหาช่วยกันแก้ มีความสุข ชุมชนเจริญ ร่วมกันภาคภูมิใจ ส่วนคนที่ชี้แจงอย่างไรเขาก็ไม่ฟังก็ไม่ต้องโกรธกัน ถือซะว่าศรศิลป์ไม่กินกัน ก็อย่าตะแบงไปขอให้เขาเชื่อ ก็ไม่ต้องไปสร้างตรงนั้น ถือซะว่าเป็นการแลกเปลี่ยนนะครับ ด้วยความเคารพทุกท่าน จำรัส มือถือ 081 811 5265

ความคิดเห็นที่ 57
จำรัส
26 กรกฏาคม 2009
21:31:35
tpk2013@hotmail.com
IP : 110.49.161.159
เพิ่มเติมให้นะครับ ที่เชียงรายมีชีวมวลเดินเครื่องอยู่แล้ว อย่างน้อย 1แห่ง ไม่แน่ใจว่าเป็นอำเภออะไรลองสอบถามอุตสาหกรรมจว.ดูนะครับ เป็นระบบ Gasifier ขนาด 100 กว่าkW เท่าที่ทราบไม่เห็นประท้วงกัน ทั้งๆที่ระบบ Gasifier นี้ก่อมลพิษมากกว่าระบบ Boiler+Steam turbine ซะอีก

ความคิดเห็นที่ 58
อิคคิวซัง
04 สิงหาคม 2009
10:05:51
rehab_no.3@hotmail.com
IP : 118.172.122.5
ถึงคุณจำรัส....
ที่เชียงรายที่ผมรู้มามีโรงงานอยู่ที่ อ.เวียงแก่น ทำงานด้วยระบบ Gasification ครับ ข้อมูลที่จริงคือ ระบบนี้ให้ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม น้อยกว่า ระบบ Boiler ครับ

ความคิดเห็นที่ 59
คนผ่านมา
11 กันยายน 2009
15:05:11
isarang.s@gmail.com
IP : 58.9.126.40
มันก็เหมือนปัญหาเรื่องขยะนั่นแหละครับ
ไม่มีชาวบ้านที่ไหนอยากให้เอามาทิ้งใกล้ๆ ที่ตัวเองหรอกครับ ถึงจะมาจากบ้านของตัวเองก็เถอะ เราก็เลยเรียกกันว่าปัดสวะ
คือทิ้งบ้านคนอื่นได้ แต่ห้ามทิ้งบ้านฉัน ทิ้งที่ไหนก็ได้ ฉันไม่สนใจหรอก ขอให้ไม่ใช่บ้านฉันก็พอ
เหมือนเอาขี้ตัวเองไปให้คนอื่นรับผิดชอบนั่นแหละครับ ไม่คิดว่าจะเอาเปรียบคนพื้นที่อื่นกันบ้างหรือครับ
จริงๆแล้วผมคิดว่าในเมื่อคุณจะใช้ คุณก็ต้องรับผิดชอบในส่วนที่คุณจะใช้ คุณจะทิ้ง คุณก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่คุณทิ้งด้วย อย่าปัดสวะ!!
ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาก็จริง แต่ในอนาคตมันต้องมีแน่ เพราะไม่มีใครอยากให้บ้านตัวเองมีมลภาวะกันทั้งนั้น แต่ก็จะไม่มีใครหยุดใช้ไฟฟ้าแน่นอน

ขณะนี้เชียงรายโฟกัส ได้ย้ายไปใช้เว็บบอร์ดใหม่

ท่านสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่นี่ http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php

 


"...ข้อความที่ีท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าผู้เสียหายหรือผู้ถูกพาดพิงพบเห็นข้อความใดๆ ที่พาดพิงถึงท่านจนได้รับความเสียหาย หรือข้อความที่ี่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งมาที่ เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบทันที ขอขอบพระคุณ.."
 

เชียงรายโฟกัส ดอทคอม ชุมชนออนไลน์ของคนเชียงราย by :http://www.ChiangraiFocus.com
ทุกความคิดเห็นสามารถส่งมาได้ที่ ChiangraiFocus@hotmail.com | หน้าแรกเว็บไซต์เชียงรายโฟกัส | หางานเชียงราย | ลงโฆษณากับเชียงรายโฟกัส